แนวโน้มเปลี่ยน
ตลาดเกิดการปรับตัวเป็นวันที่ 2 โดยแม้ไม่มีปัจจัยลบอะไร แต่นักลงทุนก็หวั่นไหวในความไม่แน่นอน และระบายหุ้นออก เพราะไม่แน่ใจว่าแนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนไปหรือไม่ จากขาขึ้นเต็มตัวกลับสู่ทิศทางการปรับฐานจึงไม่กล้าซื้อเท่าไหร่ หลังจากวันอังคารซื้อไปหนักจนติดหุ้นกันเป็นแถว
ดัชนีปิดที่ 1,518.05 จุด ลดลง 12.27 จุด มูลค่าซื้อขาย 58,242 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 204 ล้านบาท
ตลาดอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างการปรับฐานกับการดีดตัวกลับ แต่แนวโน้มการปรับฐานมีมากกว่า เนื่องจากราคาหุ้นขึ้นมายาวนาน และไม่มีข่าวดีสนับสนุนต่อ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายต่อเนื่อง ส่วนแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันเริ่มแผ่วลงซึ่งเป็นผลจากแรงซื้อของทริกเกอร์ฟันด์เริ่มหมดลง สำหรับนักลงทุนรายย่อยไม่แน่ใจว่าหุ้นจะเกิดการปรับฐานต่อเนื่องหรือไม่ จึงชะลอการลงทุนลง
การปรับฐานรอบนี้มีมุมมองออกมาแล้ว โดยดัชนีมีสิทธิหลุด 1,500 จุด และจุดสูงสุดของรอบผ่านพ้นไปแล้ว ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ก็ไม่มีกลุ่มไหนน่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ซึ่งถูกผลกระทบจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัว จะมีหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กเท่านั้นที่ยังมีการจุดพลุเก็งกำไร แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ยังออกมาเตือนถึงภาวะการปั่นฟองสบู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนระมัดระวังในการตามแห่เก็งกำไรมากขึ้น แม้หลายตัวยังมีแรงซื้อจุดพลุผลักดันราคาอยู่ก็ตาม
สถานการณ์การลงทุนมีอาการกระเพื่อมอย่างชัดเจน อารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนแปรปรวน จึงควรที่จะถอยออกมารอดูเหตุการณ์ชั่วคราวไม่ควรพัวพันตามตลาดเหมือนก่อนหน้า
ตลาดเกิดการปรับตัวเป็นวันที่ 2 โดยแม้ไม่มีปัจจัยลบอะไร แต่นักลงทุนก็หวั่นไหวในความไม่แน่นอน และระบายหุ้นออก เพราะไม่แน่ใจว่าแนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนไปหรือไม่ จากขาขึ้นเต็มตัวกลับสู่ทิศทางการปรับฐานจึงไม่กล้าซื้อเท่าไหร่ หลังจากวันอังคารซื้อไปหนักจนติดหุ้นกันเป็นแถว
ดัชนีปิดที่ 1,518.05 จุด ลดลง 12.27 จุด มูลค่าซื้อขาย 58,242 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 204 ล้านบาท
ตลาดอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างการปรับฐานกับการดีดตัวกลับ แต่แนวโน้มการปรับฐานมีมากกว่า เนื่องจากราคาหุ้นขึ้นมายาวนาน และไม่มีข่าวดีสนับสนุนต่อ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายต่อเนื่อง ส่วนแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันเริ่มแผ่วลงซึ่งเป็นผลจากแรงซื้อของทริกเกอร์ฟันด์เริ่มหมดลง สำหรับนักลงทุนรายย่อยไม่แน่ใจว่าหุ้นจะเกิดการปรับฐานต่อเนื่องหรือไม่ จึงชะลอการลงทุนลง
การปรับฐานรอบนี้มีมุมมองออกมาแล้ว โดยดัชนีมีสิทธิหลุด 1,500 จุด และจุดสูงสุดของรอบผ่านพ้นไปแล้ว ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ก็ไม่มีกลุ่มไหนน่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ซึ่งถูกผลกระทบจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัว จะมีหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กเท่านั้นที่ยังมีการจุดพลุเก็งกำไร แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ยังออกมาเตือนถึงภาวะการปั่นฟองสบู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนระมัดระวังในการตามแห่เก็งกำไรมากขึ้น แม้หลายตัวยังมีแรงซื้อจุดพลุผลักดันราคาอยู่ก็ตาม
สถานการณ์การลงทุนมีอาการกระเพื่อมอย่างชัดเจน อารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนแปรปรวน จึงควรที่จะถอยออกมารอดูเหตุการณ์ชั่วคราวไม่ควรพัวพันตามตลาดเหมือนก่อนหน้า
