รายย่อยสู้ตาย
ตลาดหุ้นช่วงนี้เริ่มมีความแปรปรวนขึ้นลงวูบวาบ เนื่องจากผลกระทบจากปัจจัยภายนอก โดยวันนี้ทรุดตัวลงเกือบ 10 จุด แม้ลงไม่มากแต่มีความเคลื่อนไหวที่ไม่ดีนัก เนื่องจากนักลงทุนรายใหญ่ทั้ง 3 กลุ่มขาย มีเพียงนักลงทุนรายย่อยที่เข้าไปซื้อรับเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งหากมีปัจจัยลบแทรกซ้อนเข้ามาจะเป็นเรื่องที่เปราะบางมาก
ดัชนีปิดที่ 1,530.32 จุด ลดลง 9.81 จุด มูลค่าซื้อขาย 64,372 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,509 ล้านบาท
การปรับตัวลงเนื่องจากตลาดหุ้นดาวโจนส์ทรุดตัวหนัก ส่งผลกระทบจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นไทย แต่การปรับตัวลงก็ไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากมีแรงซื้อนักลงทุนรายย่อยเข้ามารับ ซึ่งหากรายย่อยไม่แห่เข้ามารับดัชนีอาจทรุดตัวลงนับสิบจุด เพราะนักลงทุนกลุ่มอื่นขายหมด แม้แต่นักลงทุนสถาบันในประเทศซึ่งซื้อมาตลอด
ภาพรวมของตลาดยังไม่น่ากลัวนักแม้ช่วงนี้จะแกว่งก็ตาม แต่ถ้ามองถึงแรงซื้อแรงขายของนักลงทุนแต่ละกลุ่มก็น่าหวั่นไหวเพราะต่างชาติกลับมาขายหนักขึ้น ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศขายตาม จึงมีแต่แรงซื้อของรายย่อยเท่านั้นที่ยันไว้ แต่ถ้านักลงทุนรายย่อยยังขายต่อ รายย่อยจะรับไหวหรือไม่
นอกจากนั้น ราคาน้ำนัมตลาดโลกก็เริ่มอ่อนตัวลงส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีอย่างเห็นได้ชัด ถ้าขนาดใหญ่กลุ่มอื่นลงตามดัชนีจะเปลี่ยนแนวโน้มสู่การถดถอย และส่งผลต่อเนื่องกับการเก็งกำไรหุ้นรายตัวด้วย
แนวโน้มตลาดในช่วงสั้นจึงไม่น่าไว้วางใจนัก และไม่ควรถือว่าการปรับฐานเป็นโอกาสในการซื้อหุ้น เพราะถ้าตลาดเข้าสู่ช่วงการปรับฐานเต็มตัวการผลีผลามซื้อจะทำให้ต้องแบกรับต้นทุนหุ้นแพง
ตลาดหุ้นช่วงนี้เริ่มมีความแปรปรวนขึ้นลงวูบวาบ เนื่องจากผลกระทบจากปัจจัยภายนอก โดยวันนี้ทรุดตัวลงเกือบ 10 จุด แม้ลงไม่มากแต่มีความเคลื่อนไหวที่ไม่ดีนัก เนื่องจากนักลงทุนรายใหญ่ทั้ง 3 กลุ่มขาย มีเพียงนักลงทุนรายย่อยที่เข้าไปซื้อรับเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งหากมีปัจจัยลบแทรกซ้อนเข้ามาจะเป็นเรื่องที่เปราะบางมาก
ดัชนีปิดที่ 1,530.32 จุด ลดลง 9.81 จุด มูลค่าซื้อขาย 64,372 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,509 ล้านบาท
การปรับตัวลงเนื่องจากตลาดหุ้นดาวโจนส์ทรุดตัวหนัก ส่งผลกระทบจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นไทย แต่การปรับตัวลงก็ไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากมีแรงซื้อนักลงทุนรายย่อยเข้ามารับ ซึ่งหากรายย่อยไม่แห่เข้ามารับดัชนีอาจทรุดตัวลงนับสิบจุด เพราะนักลงทุนกลุ่มอื่นขายหมด แม้แต่นักลงทุนสถาบันในประเทศซึ่งซื้อมาตลอด
ภาพรวมของตลาดยังไม่น่ากลัวนักแม้ช่วงนี้จะแกว่งก็ตาม แต่ถ้ามองถึงแรงซื้อแรงขายของนักลงทุนแต่ละกลุ่มก็น่าหวั่นไหวเพราะต่างชาติกลับมาขายหนักขึ้น ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศขายตาม จึงมีแต่แรงซื้อของรายย่อยเท่านั้นที่ยันไว้ แต่ถ้านักลงทุนรายย่อยยังขายต่อ รายย่อยจะรับไหวหรือไม่
นอกจากนั้น ราคาน้ำนัมตลาดโลกก็เริ่มอ่อนตัวลงส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีอย่างเห็นได้ชัด ถ้าขนาดใหญ่กลุ่มอื่นลงตามดัชนีจะเปลี่ยนแนวโน้มสู่การถดถอย และส่งผลต่อเนื่องกับการเก็งกำไรหุ้นรายตัวด้วย
แนวโน้มตลาดในช่วงสั้นจึงไม่น่าไว้วางใจนัก และไม่ควรถือว่าการปรับฐานเป็นโอกาสในการซื้อหุ้น เพราะถ้าตลาดเข้าสู่ช่วงการปรับฐานเต็มตัวการผลีผลามซื้อจะทำให้ต้องแบกรับต้นทุนหุ้นแพง