ฝรั่งจุดพลุ
ตลาดหุ้นส่งท้ายเดือนพฤศจิกายนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บรรยากาศร้อนแรงสุดขีด และสร้างสถิติใหม่ในหลายด้าน มูลค่าซื้อขายพุ่งขึ้นเกือบ 8 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 2 นับจากเปิดก่อตั้งตลาดหุ้น ส่วนดัชนีสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปี เนื่องจากมีแรงซื้อจากต่างชาติกลับเข้ามา และทำให้คาดหวังว่าดัชนีอาจเดินหน้าต่อถ้าต่างชาติกลับเข้ามาซื้อต่อเนื่อง
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,324.04 จุด เพิ่มขึ้น14.47 จุด มูลค่าซื้อขาย 77,598 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,851 ล้านบาท
หุ้นขนาดใหญ่กลับมาฟื้นกันหมด โดยมีกลุ่มสื่อสารเป็นตัวนำ ตามด้วยหลังจาก ปิโตรเคมี และกลุ่มธนาคารซึ่งน่าจะเกิดจากแรงซื้อของต่างชาติ แต่ไม่อาจประเมินได้ว่าต่างชาติกลับมาซื้อด้วยเหตุใด เพราะช่วงปลายปีมักจะชะลอการลงทุน หรือขายทำกำไร
การกลับมาของต่างชาติทำให้ต้องประเมินแนวโน้มหุ้นกันใหม่ โดยก่อนหน้าคาดว่า ดัชนีจะเคลื่อนไหวระดับ 1,300 จุด และจะประคับประคอตัวไปจนปิดสิ้นปี แต่กลับมีความร้อนแรงขึ้นมาทั้งที่ไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ ไม่มีข่าวดีเป็นชิ้นเป็นอันกระตุ้นเหมือนเดิม
ดังนั้น ตลาดหุ้นจะเดินหน้าต่อได้ต้องอาศัยแรงซื้อจากต่างชาติ ส่วนหุ้นที่มีโอกาสขึ้นมาเป็นกลุ่มนำตลาด อาจต้องจับตาไปที่หุ้นกลุ่มพลังงานเพราะราคาปีนี้ไม่ค่อยขยับ และยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมายืน 88 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ซึ่งหากกลุ่มพลังงานขยับดัชนีสิ้นปีอจได้เจอกันที่ 1,350 จุดได้
เริ่มต้นสู่เดือนธันวาคม วันจันทร์นี้หุ้นยังคงคึกคักต่อ แต่จะร้อนแรง ดัชนีพุ่งฉิวต่อเนื่องได้หรือไม่ต้องฝากความหวังไว้กับต่างชาติเท่านั้น ส่วนนักลงทุนทั่วไปยังต้องใช้กลุยุทธ์ขึ้นขายต่อไป
ตลาดหุ้นส่งท้ายเดือนพฤศจิกายนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บรรยากาศร้อนแรงสุดขีด และสร้างสถิติใหม่ในหลายด้าน มูลค่าซื้อขายพุ่งขึ้นเกือบ 8 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 2 นับจากเปิดก่อตั้งตลาดหุ้น ส่วนดัชนีสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปี เนื่องจากมีแรงซื้อจากต่างชาติกลับเข้ามา และทำให้คาดหวังว่าดัชนีอาจเดินหน้าต่อถ้าต่างชาติกลับเข้ามาซื้อต่อเนื่อง
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,324.04 จุด เพิ่มขึ้น14.47 จุด มูลค่าซื้อขาย 77,598 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,851 ล้านบาท
หุ้นขนาดใหญ่กลับมาฟื้นกันหมด โดยมีกลุ่มสื่อสารเป็นตัวนำ ตามด้วยหลังจาก ปิโตรเคมี และกลุ่มธนาคารซึ่งน่าจะเกิดจากแรงซื้อของต่างชาติ แต่ไม่อาจประเมินได้ว่าต่างชาติกลับมาซื้อด้วยเหตุใด เพราะช่วงปลายปีมักจะชะลอการลงทุน หรือขายทำกำไร
การกลับมาของต่างชาติทำให้ต้องประเมินแนวโน้มหุ้นกันใหม่ โดยก่อนหน้าคาดว่า ดัชนีจะเคลื่อนไหวระดับ 1,300 จุด และจะประคับประคอตัวไปจนปิดสิ้นปี แต่กลับมีความร้อนแรงขึ้นมาทั้งที่ไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ ไม่มีข่าวดีเป็นชิ้นเป็นอันกระตุ้นเหมือนเดิม
ดังนั้น ตลาดหุ้นจะเดินหน้าต่อได้ต้องอาศัยแรงซื้อจากต่างชาติ ส่วนหุ้นที่มีโอกาสขึ้นมาเป็นกลุ่มนำตลาด อาจต้องจับตาไปที่หุ้นกลุ่มพลังงานเพราะราคาปีนี้ไม่ค่อยขยับ และยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมายืน 88 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ซึ่งหากกลุ่มพลังงานขยับดัชนีสิ้นปีอจได้เจอกันที่ 1,350 จุดได้
เริ่มต้นสู่เดือนธันวาคม วันจันทร์นี้หุ้นยังคงคึกคักต่อ แต่จะร้อนแรง ดัชนีพุ่งฉิวต่อเนื่องได้หรือไม่ต้องฝากความหวังไว้กับต่างชาติเท่านั้น ส่วนนักลงทุนทั่วไปยังต้องใช้กลุยุทธ์ขึ้นขายต่อไป