นักวิชาการนิด้าเผย การขับเคลื่อนนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันผลักดันโครงการให้เดินหน้า แนะรัฐดึงเอกชนร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานผ่านตลาดทุน
นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร MPA สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศภายใต้ พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ที่เน้นการลงทุนในระบบราง เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันผลักดันโครงการให้เดินหน้า เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้เดินไปข้างหน้า
นายมนตรี กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยขาดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้ต้นทุนด้านการขนส่งสินค้า หรือลอจิสติกส์ของไทยอยู่ในระดับสูงมาก หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ส่งผลให้ขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วนกรณีการก่อหนี้สาธารณะจากการดำเนินโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะทำให้หนี้สาธารณะอยู่ในสัดส่วนสูงขึ้นมากนั้น นายมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลสามารถใช้แนวทางดึงภาคเอกชนที่มีความพร้อม และศักยภาพด้านการลงทุนเข้ามามีส่วนร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยอาศัยกลไกตลาดทุนที่ภาคเอกชนสามารถจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินเข้ามาระดมทุนเพื่อเข้ามาลงทุน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง และความกังวลต่อปัญหาหนี้สาธารณะไม่ให้สูงเกินไป จนเกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวได้
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าห่วงเรื่องหนี้สาธารณะ เพราะเป็นลักษณะการทยอยกู้เงิน ซึ่งจะไม่ส่งผลต่อสัดส่วนหนี้สาธารณะมากนัก นอกจากนี้ ยังเป็นการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
ทั้งนี้ เพื่อให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศ ภาครัฐควรกำหนดขอบเขตงานในการเปิดประมูล (ทีโออาร์) ของโครงการนี้ที่กำหนดให้ผู้ที่ชนะการประมูลเลือกใช้สเปกวัสดุก่อสร้างภายในประเทศมากที่สุด ซึ่งช่วยเพิ่มธุรกรรมเศรษฐกิจในประเทศให้ขยายตัวมากขึ้น และจะทำให้สัดส่วนระหว่างหนี้สาธารณะกับจีดีพีลดลง รวมถึงดึงองค์กร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันเข้ามามีส่วนร่วมในคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินโครงการทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความโปร่งใส และลดข้อครหาเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชันจากการดำเนินงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ