xs
xsm
sm
md
lg

“จรัมพร” ชำแหละปม “หุ้นไทยร่วงแรง” วอลุ่มแสนล้านไม่ใช่เก็งกำไร ยันไม่มีฟอสเซล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จรัมพร โชติกเสถียร
“จรัมพร” ชำแหละปม “หุ้นไทยร่วงแรง” เกิดจากแรงขาย “หุ้นกลาง-หุ้นเก็งกำไร” ส่วนต่างชาติยังซื้อสุทธิ พร้อมช้อนหุ้นพื้นฐานดีราคาต่ำ ยันวอลุ่มทะลุแสนล้านสูงสุดในรอบ 38 ปี นับจากที่มีการตั้งตลาด ไม่ใช่เกิดการเก็งกำไร ย้ำการที่ตลาดหุ้นตกเพราะนักลงทุนหาจุดปิดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ยันในวันนี้ยังไม่มีการฟอสเซลเกิดขึ้น เพราะส่วนใหญ่ซื้อขายด้วยเงินสด

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีหุ้นไทยกว่า 60 จุดในวันนี้ มาจากการขายทำกำไรของนักลงทุน เนื่องจากที่ผ่านมาดัชนีปรับขึ้นร้อนแรงมาก โดยขึ้นถึงร้อยละ 50 ในรอบ 14 เดือน และขึ้นถึงร้อยละ 15 ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อนักลงทุนได้กำไรแล้วจึงมีการเทขายออกมา

ทั้งนี้ ตลท. เริ่มเห็นสัญญาณตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยราคาหุ้นที่ปรับลดลงมามากเป็นหุ้นขนาดกลางซึ่งเป็นหุ้นเก็งกำไร โดยลดลงมาถึงร้อยละ 9 ขณะที่หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ราคาลดลงเพียงร้อยละ 3 และในช่วงท้ายตลาดก็ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นพื้นฐานดี เพราะมีความมั่นใจเศรษฐกิจไทย และกำไรของบริษัทจดทะเบียน

ดังนั้น การที่หุ้นลงในวันนี้จึงถือเป็นจังหวะของนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนต่างชาติที่ยังมีความเข้าใจในตลาดหุ้นไทยกลับเข้ามาลงทุน เพราะในวันนี้ พอร์ตการลงทุนของต่างชาติเป็นการซื้อสุทธิ หลังจากที่ 5 วันทำการที่ผ่านมา ต่างชาติมียอดขายสุทธิ เพราะเกิดข่าวลือเรื่องที่รัฐบาลจะออกมาตรการสกัดการแข็งค่าของเงินบาท และกังวลแผนการฟื้นฟูไซปรัสที่มีปัญหามากขึ้น แต่เมื่อมีควมชัดเจนว่าจะไม่มีการออกมาตรการสกัดเงินบาทต่างชาติก็กลับเข้ามาลงทุนใหม่

นายจรัมพร กล่าวว่า ขอให้นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ติดตามบทวิเคราะห์และข้อมูลต่างๆ และใช้วิจารณญาณ และดุลพินิจก่อนการลงทุน เพราะในภาวะที่ตลาดหุ้นไทยร้อนแรงมากก็จะมีการเก็งกำไรสูง อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะไม่มีมาตรการพิเศษ หรือเข้าไปแทรกแซง จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด และในวันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ข้อมูลการซื้อขายแก่ทั้ง ก.ล.ต. ธปท. และกระทรวงการคลังอย่างต่อเนื่อง

ส่วนกรณีที่มูลค่าการซื้อขายสูงถึงกว่า 1 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 38 ปี นับจากที่มีการก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มองว่าไม่ใช่เกิดการเก็งกำไร การที่ตลาดหุ้นตกเป็นเพราะนักลงทุนหาจุดปิดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนมากกว่า และในวันนี้ยังไม่ได้มีการบังคับขายใดๆ เนื่องจากส่วนใหญ่ซื้อขายบัญชีเงินสดมากกว่าสินเชื่อ

“ถ้าหากเทียบดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี 55 ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นประมาณร้อยละ 6 เทียบกับดัชนีของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่น ที่ลดลงร้อยละ 2 ถือว่าหุ้นไทยยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ และต่างชาติก็ซื้อสุทธิ 2,600 ล้านบาท กำไร บจ.ก็แข็งแกร่ง ดังนั้น จึงเป็นจังหวะที่นักลงทุนจะเลือกลงทุนหุ้นพื้นฐานดี และซื้อหน่วยลงทุน LTF และ RMF”

ส่วนดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปิดที่ระดับ 1,478.97 จุด ลดลง 50.55 หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 3.30 มูลค่าการซื้อขาย 101,361 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น