บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติปรับเพิ่มแผนงานพัฒนาความรู้ความสามารถผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน และผู้ลงทุน เพื่อการพัฒนาตลาดทุนอย่างยั่งยืน พร้อมอนุมัติให้พัฒนาระบบส่งคำสั่งซื้อขายสำรอง เพื่อสนับสนุนบริษัทสมาชิก และลดความเสี่ยงกรณีระบบซื้อขายของสมาชิกมีปัญหา พร้อมอนุมัติการปรับหลักเกณฑ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อระบบชำระราคาซื้อขายโดยรวม
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2556 มีมติอนุมัติการปรับปรุงเพิ่มเติมแผนงานสำคัญ 4 เรื่อง ประกอบด้วย การพัฒนาความรู้ความสามารถ และทักษะผู้ประกอบวิชาชีพในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ เช่น ผู้แนะนำการลงทุน (Investment Consultant) นักวิเคราะห์ และบุคลากรที่ให้คำแนะนำด้าน wealth management
โดยให้มีการจัดทำหลักสูตรและจัดอบรมเพื่อเพิ่มทักษะและความสามารถที่วัดผลสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม การเพิ่มแผนงานและจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความรู้ และส่งเสริมวัฒนธรรมการออมระยะยาวในเชิงรุก โดยผ่านกองทุนรวม และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมทั้งการลงทุนในหุ้นโดยตรง ซึ่งจะช่วยขยายฐานผู้ลงทุนคุณภาพของตลาดทุนไทยในอนาคต โดยมุ่งกระจายความรู้ผ่านสื่อต่างๆ ไปยังประชาชนในวงกว้างทั่วประเทศ รวมทั้งการจัดกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อขยายการลงทุนใน 10 จังหวัด
การพัฒนาระบบส่งคำสั่งซื้อขายสำรอง Trading Backup Terminal เพื่อให้บริษัทสมาชิกสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้เมื่อระบบหลักของสมาชิกมีปัญหา ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการทำธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์แก่บริษัทสมาชิก และผู้ลงทุนและการปรับหลักเกณฑ์ในการวางหลักประกันในบัญชีเงินสด (cash account) จากปัจจุบันที่กำหนดไม่ต่ำกว่า 15% เป็นไม่ต่ำกว่า 20% เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อระบบชำระราคาการซื้อขายหลักทรัพย์สำหรับลูกค้า และรองรับการขยายตัวของนักลงทุนและมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงลดการเกิดความผันผวนของตลาดโดยรวมที่เพิ่มขึ้นด้วย นับเป็นมาตรการดูแลเสถียรภาพของตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มอัตราการวางหลักประกันดังกล่าวจะต้องผ่านขั้นตอนรับฟังความเห็นจากที่ประชุมสมาชิกก่อน
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดจัดประชุมวิสามัญของสมาชิก ในวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2556 นี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวจากที่ประชุม ซึ่งหากที่ประชุมมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมก็จะเสนอต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อพิจารณาต่อไป แต่หากที่ประชุมมีมติเห็นสอดคล้อง และไม่มีประเด็นเพิ่มเติม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อแก้ไขข้อบังคับโดยจะแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้าก่อนมีผลบังคับใช้
***********