xs
xsm
sm
md
lg

เร่งผลักดันตลาดตราสารหนี้เป็นเครื่องมือระดมทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมว.คลัง แย้มแผนกู้ลงทุน 2 ล้านล้านบาท เผยในหลายช่องทาง ทั้งกู้เงินโดยตรงจากสถาบันการเงิน และการออกพันธบัตรระยะสั้น พร้อมระบุตลาดตราสารหนี้ถือเป็นเครื่องมือหลักที่สำคัญในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยปี 5 เติบโตถึง 21% เทียบกับปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 8.58 ล้านล้านบาท หรือมีปริมาณการซื้อขายต่อวัน 21,000 ล้านบาท โดยมีหุ้นกู้และตราสารหนี้ออกใหม่ 5.1 แสนล้านบาท

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงปาฐกถาพิเศษในงานประกาศผลรางวัลตราสารหนี้ยอดเยี่ยม และผู้ประกอบการตราสารหนี้ยอดเยี่ยมแห่งปี 2555 โดยระบุว่า ตลาดตราสารหนี้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีอุปสรรคบางประการ กระทรวงการคลังจึงพร้อมแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาของตลาดตราสารหนี้ เพื่อดึงนักลงทุนเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เพราะตลาดตราสารหนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการระดมทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาท

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า เมื่อร่าง พ.ร.บ.กู้เงินผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลจะกู้เงินในหลายรูปแบบทั้งกู้เงินโดยตรงจากสถาบันการเงิน การออกพันธบัตรระยะสั้น เมื่อเริ่มก่อสร้างโครงการ จากนั้น จะทยอยกู้เงินตลอดช่วง 7 ปี สำหรับการก่อสร้างด้วยการออกพันธบัตรระยะยาวอายุ 10-15 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาของแต่ละโครงการ คาดว่าการกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะทำให้ตลาดตราสารหนี้เติบโตควบคู่ไปกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

นายกิตติรัตน์ ยืนยันด้วยว่า รัฐบาลจะกู้เงินโดยคำนึงถึงวินัยทางการคลัง และมั่นใจว่าระดับหนี้สาธารณะจะไม่เกินร้อยละ 50 ต่อจีดีพีอย่างแน่นอน อีกทั้งการออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงินดังกล่าวยังไม่เป็นภาระงบประมาณประจำปีอีกด้วย และสภาพคล่องในระบบยังมีเพียงพอ เพื่อกู้เงินจากสถาบันการเงิน นักลงทุนสถาบัน และประชาชนรายย่อย

สำหรับภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในปี 2555 เติบโตร้อยละ 21 เทียบกับปี 2554 คิดเป็นมูลค่า 8.58 ล้านล้านบาท หรือมีปริมาณการซื้อขายต่อวัน 21,000 ล้านบาท โดยมีหุ้นกู้และตราสารหนี้ออกใหม่ 510,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี้กลุ่มพลังงาน สถาบันการเงิน และบริษัทจดทะเบียน โดยสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยถือครองมากกว่าร้อยละ 50 และนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อตราสารหนี้ระยะยาวสุทธิ 210,000 ล้านบาท ทำให้มูลค่าการถือครองตราสารหนี้รวมของนักลงทุนต่างประเทศ ณ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ 710,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.3 ของมูลค่าตราสารหนี้ทั้งระบบ

ส่วนรางวัล best bond house ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) รางวัล top underwriter award ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) รางวัล best investor relations issuer ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รางวัล most creative issue ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิต จำกัด (มหาชน)
กำลังโหลดความคิดเห็น