กระดานถล่ม
ภาวะการซื้อขายหุ้นเกิดอาการแกว่งตัวมาพักหนึ่งแล้ว เหมือนกับสัญญาณเตือนกลายๆ แต่ก็ประคองตัวมาได้ เดินหน้าสร้างจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง จนระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันนี้สามารถทะลุ 1,600 จุดขึ้นไป แต่หลังจากนั้เกิดแรงขายกระหน่ำจนดัชนีทรุดฮวบ กลายเป็นการปรับฐานครั้งใหญ่สุดในรอบปีนี้ ทั้งที่ไม่มีปัจจัยลบกระทบอย่างเป็นรูปธรรม
ดัชนีทรุดลงมาปิดที่ 1,568.25 จุด ลดลง 23.40 จุด มูลค่าซื้อขาย 76,075 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 969 ล้านบาท
การปรับตัวรุนแรงของตลาดไม่มีประเด็นข่าวที่ชัดเจน นอกจากลือกันว่าอาจมีการออกมาตรการควบคุมปริวรรตเงินตราป้องกันเงินไหลเข้าซึ่งทำให้ค่าเงินบาทแข็ง แต่ก็เป็นเพียงข่าวลือที่ไม่มีการยืนยัน และอาจเป็นเหตุผลที่นำมากล่าวอ้างเพื่อสนับสนุนการปรับตัวลงของหุ้นเท่านั้น
ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่ราคาหุ้นซึ่งพุ่งขึ้นมาร้อนแรงต่อเนื่อง จนนักลงทุนในประเทศไม่กล้าลุยซื้อนอกจากการเก็งกำไรตามแห่หุ้นรายตัวเท่านั้น แต่ก็มีความระมัดระวังตัวมากขึ้น และพร้อมจะเทขายหากมีสัญญาณลบ ดังนั้น เมื่อมีแรงขายทำกำไรในระดับดัชนีที่พุ่งทะลุ 1,600 จุด นักลงทุนที่ระมัดระวังตัวอยู่แล้วจึงเทขายหุ้นตามจนเกิดสัญญาณการปรับฐาน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเทขายมากขึ้น
ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าการปรับฐานที่เกิดขึ้นวันนี้จะเป็นเรื่องชั่วคราว หรือการปรับฐานรอบใหญ่ เพราะจะต้องประเมินอารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนส่วนใหญอีกครั้ง ส่วนปัจจัยภายนอกไม่มีข่าวร้ายซ้ำเติม ขณะที่ปัจจัยภายในอาจเป็นบวกด้วยซ้ำ เพราะรัฐบาลอนุมัติกู้เงิน 2.2 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้ว ซึ่งจะกระตุ้นหุ้นหลายกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์เพียงแต่ราคาหุ้นก็ขึ้นมาขานรับล่วงหน้าแล้ว
หุ้นขนาดใหญ่ไม่มีอะไรน่าห่วงเพราะต่างชาติยังไม่ขาย แต่ที่น่าหวั่นไหวคือ หุ้นร้อนขนาดเล็กซึ่งเก็งกำไรกันสุดตัวมาหลายสัปดาห์ และบางตัวเจ้ามือก็เพิ่งจุดพลุลากขึ้น โดยสถานการณ์ความผันผวนที่เกิดขึ้นวันนี้ทำให้นักลงทุนรายย่อยเกิดความหวั่นไหว และพร้อมจะขายอย่างต่อเนื่องถ้ามีสัญญาณที่ไม่น่าไว้วางใจ เพราะขาดทุนน้อย หรือบางส่วนยังพอมีกำไร
ใครที่คิดจะลุยกับหุ้นร้อนต้องประเมินสถานการณ์ให้ดี เพราะถ้าพลาดเจ็บหนักแน่ และหลายคนก็เจ็บไปแล้ว
ภาวะการซื้อขายหุ้นเกิดอาการแกว่งตัวมาพักหนึ่งแล้ว เหมือนกับสัญญาณเตือนกลายๆ แต่ก็ประคองตัวมาได้ เดินหน้าสร้างจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง จนระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันนี้สามารถทะลุ 1,600 จุดขึ้นไป แต่หลังจากนั้เกิดแรงขายกระหน่ำจนดัชนีทรุดฮวบ กลายเป็นการปรับฐานครั้งใหญ่สุดในรอบปีนี้ ทั้งที่ไม่มีปัจจัยลบกระทบอย่างเป็นรูปธรรม
ดัชนีทรุดลงมาปิดที่ 1,568.25 จุด ลดลง 23.40 จุด มูลค่าซื้อขาย 76,075 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 969 ล้านบาท
การปรับตัวรุนแรงของตลาดไม่มีประเด็นข่าวที่ชัดเจน นอกจากลือกันว่าอาจมีการออกมาตรการควบคุมปริวรรตเงินตราป้องกันเงินไหลเข้าซึ่งทำให้ค่าเงินบาทแข็ง แต่ก็เป็นเพียงข่าวลือที่ไม่มีการยืนยัน และอาจเป็นเหตุผลที่นำมากล่าวอ้างเพื่อสนับสนุนการปรับตัวลงของหุ้นเท่านั้น
ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่ราคาหุ้นซึ่งพุ่งขึ้นมาร้อนแรงต่อเนื่อง จนนักลงทุนในประเทศไม่กล้าลุยซื้อนอกจากการเก็งกำไรตามแห่หุ้นรายตัวเท่านั้น แต่ก็มีความระมัดระวังตัวมากขึ้น และพร้อมจะเทขายหากมีสัญญาณลบ ดังนั้น เมื่อมีแรงขายทำกำไรในระดับดัชนีที่พุ่งทะลุ 1,600 จุด นักลงทุนที่ระมัดระวังตัวอยู่แล้วจึงเทขายหุ้นตามจนเกิดสัญญาณการปรับฐาน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเทขายมากขึ้น
ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าการปรับฐานที่เกิดขึ้นวันนี้จะเป็นเรื่องชั่วคราว หรือการปรับฐานรอบใหญ่ เพราะจะต้องประเมินอารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนส่วนใหญอีกครั้ง ส่วนปัจจัยภายนอกไม่มีข่าวร้ายซ้ำเติม ขณะที่ปัจจัยภายในอาจเป็นบวกด้วยซ้ำ เพราะรัฐบาลอนุมัติกู้เงิน 2.2 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้ว ซึ่งจะกระตุ้นหุ้นหลายกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์เพียงแต่ราคาหุ้นก็ขึ้นมาขานรับล่วงหน้าแล้ว
หุ้นขนาดใหญ่ไม่มีอะไรน่าห่วงเพราะต่างชาติยังไม่ขาย แต่ที่น่าหวั่นไหวคือ หุ้นร้อนขนาดเล็กซึ่งเก็งกำไรกันสุดตัวมาหลายสัปดาห์ และบางตัวเจ้ามือก็เพิ่งจุดพลุลากขึ้น โดยสถานการณ์ความผันผวนที่เกิดขึ้นวันนี้ทำให้นักลงทุนรายย่อยเกิดความหวั่นไหว และพร้อมจะขายอย่างต่อเนื่องถ้ามีสัญญาณที่ไม่น่าไว้วางใจ เพราะขาดทุนน้อย หรือบางส่วนยังพอมีกำไร
ใครที่คิดจะลุยกับหุ้นร้อนต้องประเมินสถานการณ์ให้ดี เพราะถ้าพลาดเจ็บหนักแน่ และหลายคนก็เจ็บไปแล้ว