“คิวทีซี เอนเนอร์ยี” ตั้งเป้ารายได้โต 1,000 ล้านบาท พร้อมบุกตลาดต่างประเทศขยายงาน เตรียมจับมือเซ็นสัญญา Schneider Electric สร้างนวัตกรรมหม้อแปลงไฟฟ้ารุ่นใหม่ Dry Type Cast Resin
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานคณะกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ. คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดการว่าในปีนี้อัตราเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่มีรายได้ 959.51 ล้านบาท โดยมาจากสัดส่วนภายในประเทศ 80% ต่างประเทศ 20% ซึ่งตลาดใหญ่ที่สุดในต่างประเทศคือ ประเทศออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้
ในปีนี้บริษัทฯ จะเน้นขยายการลงทุนในประเทศแถบเอเชียมากขึ้น เช่น ตะวันออกกลาง และจีน เนื่องจากตลาดดังกล่าวมีศักยภาพในการซื้อสูง และมีอัตราความต้องการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมองหาช่องทางการลงทุนเพิ่มเติมตั้งโรงงานผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศลาว ซึ่งอยู่ในช่วงของการศึกษาวางแผนการจัดตั้งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของบริษัทให้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้เข้าร่วมประมูลงานมูลค่ารวมกว่า 4 พันล้านบาท จากที่บริษัทมีงานอยู่ในมือ (Backlog) อยู่แล้วในตอนนี้ 200 ล้านบาท และคาดว่าภายในปีนี้จะมีงานอย่างต่อเนื่องตลอดปีทั้งใน และต่างประเทศ ล่าสุด บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือกับ Schneider Electric ในการผลิตและจัดจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า Dry Type Cast Resin นวัตกรรมใหม่ที่ลดการใช้เหล็ก และทองแดง โดยใช้วัสดุคืออะลูมิเนียมแทน มีน้ำหนักเบา ราคาที่ถูกลง และอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในโครงการก่อสร้างโรงงงานไฟฟ้า 10 เมกะวัตต์ ร่วมกับ 3 บริษัทใหญ่ คือ บมจ.ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์แอนด์ เคมิคัลส์ (UAC) บมจ.เอเซียกรีนเอนเนอร์จี (AGE) และ บมจ.ไฮโดรเทค (HYDRO) ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 1 พันล้านบาท โดยจะได้ข้อสรุปเริ่มโครงการในกลางปีนี้
จากผลประกอบการที่ผ่านมาในงวดปี 2555 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 118.88 ล้านบาท จากปีก่อน (2554) ที่มีรายได้ 84.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 41.41% เมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นอัตราทำกำไรเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ขณะที่รายได้อยู่ที่ 959.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.29 % คณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับผู้ประกอบการในปี 2555 ในอัตรา 0.31 บาทต่อหุ้น ซึ่งมากกว่าปี 2554 ที่มีการจ่ายเงินปันผล 0.19 บาทต่อหุ้น ซึ่งการจ่ายเงินปันผลเป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่จะจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
โดยบริษัทกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 11 มีนาคม 2556 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 15 พฤษภาคม 56 ประกอบกับอัตราภาษีที่ลดลงจาก 23% เหลือ 20% ในปีภาษีหน้า คาดว่าจะทำให้บริษัทลดต้นทุน และได้กำไรที่หักภาษีแล้ว คาดว่าจะทำกำไรในปีหน้าไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท
