Saudi Aramco เหมาจ้างเรือขุดเจาะทั้ง 3 ลำของ AOD เป็นเวลา 3 ปี รวมมูลค่าสัญญาทั้งหมดสูงเกือบ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ
ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA แจ้งว่า บริษัท เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง หรือ AOD ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนของบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือเมอร์เมด ได้ลงนามในสัญญากับบริษัทน้ำมันแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย หรือ Saudi Aramco ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก มูลค่ารวมสูงถึง 462 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยสัญญาดังกล่าวเป็นการว่าจ้างเรือขุดเจาะ 3 ขาของ AOD ลำที่ 2 และลำที่ 3 ให้ไปทำงานขุดเจาะในประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นระยะเวลา 3 ปี ในมูลค่ารวม 394 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีโอกาสในการขยายสัญญาจ้างงานออกไปอีก 1 ปี โดยสัญญานี้ยังครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมให้แก่เรือทั้ง 2 ลำรวม 68 ล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย ทั้งนี้ เรือทั้ง 2 ลำกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่อู่ต่อเรือ Keppel FELS ในสิงคโปร์ และมีกำหนดส่งมอบในเดือนเมษายน และกรกฎาคม ตามลำดับ
ทั้งนี้ ซาอุดีอรามโค เพิ่งทำสัญญาในลักษณะเดียวกันนี้ในการว่าจ้างเรือขุดเจาะ 3 ขาลำแรกของ AOD ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ดังนั้น เมื่อรวมมูลค่าของสัญญาทั้งหมด ส่งผลให้ในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ AOD จะรับรู้รายได้ที่เกิดขึ้นรวมกันเกือบ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เมอร์เมดก่อตั้ง AOD ขึ้นในปี 2553 และปัจจุบัน มีสัดส่วนการถือครองหุ้นใน AODทั้งสิ้น 33.76%
“เรายินดีที่เรือขุดเจาะทั้ง 3 ลำสามารถหาสัญญาที่มีอัตราค่าจ้างรายวันที่สูงมากได้ และปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นวิสัยทัศน์ของเรากลายเป็นจริงขึ้นมาผ่านความสำเร็จของ AOD ในครั้งนี้ และ ซาอุดีอรามโค ได้กลายมาเป็นหนึ่งในลูกค้ารายสำคัญที่สุดของกลุ่มเราในเวลาเพียงไม่นาน เริ่มตั้งแต่สัญญา 5 ปีสำหรับการว่าจ้างให้เป็นผู้ดำเนินการงานตรวจสอบ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาแท่นขุดเจาะน้ำมัน โดยในอนาคตเราคาดว่าตลาดตะวันออกกลางยังคงเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับหน่วยธุรกิจต่างๆ ของเรา”
ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ AOD ได้ออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 20 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5 เหรียญสหรัฐ เพื่อระดมเงินทุนจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเตรียมรับมอบเรือขุดเจาะทั้ง 2 ลำ ซึ่งสองผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน AOD ต่างก็จับจองซื้อหุ้นดังกล่าวทั้งหมด ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองหุ้นหลังจากการเพิ่มทุนของเมอร์เมด และซีดริล เพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 33.76% และ 66.18% ตามลำดับ ทั้งนี้ ซีดริล ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเมอร์เมด คือ ผู้นำในการให้บริการเรือขุดเจาะในทะเลน้ำลึก และยังรับหน้าที่ในการดูแลด้านการตลาดให้แก่ AOD อีกด้วย
ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA แจ้งว่า บริษัท เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง หรือ AOD ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนของบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือเมอร์เมด ได้ลงนามในสัญญากับบริษัทน้ำมันแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย หรือ Saudi Aramco ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก มูลค่ารวมสูงถึง 462 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยสัญญาดังกล่าวเป็นการว่าจ้างเรือขุดเจาะ 3 ขาของ AOD ลำที่ 2 และลำที่ 3 ให้ไปทำงานขุดเจาะในประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นระยะเวลา 3 ปี ในมูลค่ารวม 394 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีโอกาสในการขยายสัญญาจ้างงานออกไปอีก 1 ปี โดยสัญญานี้ยังครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมให้แก่เรือทั้ง 2 ลำรวม 68 ล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย ทั้งนี้ เรือทั้ง 2 ลำกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่อู่ต่อเรือ Keppel FELS ในสิงคโปร์ และมีกำหนดส่งมอบในเดือนเมษายน และกรกฎาคม ตามลำดับ
ทั้งนี้ ซาอุดีอรามโค เพิ่งทำสัญญาในลักษณะเดียวกันนี้ในการว่าจ้างเรือขุดเจาะ 3 ขาลำแรกของ AOD ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ดังนั้น เมื่อรวมมูลค่าของสัญญาทั้งหมด ส่งผลให้ในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ AOD จะรับรู้รายได้ที่เกิดขึ้นรวมกันเกือบ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เมอร์เมดก่อตั้ง AOD ขึ้นในปี 2553 และปัจจุบัน มีสัดส่วนการถือครองหุ้นใน AODทั้งสิ้น 33.76%
“เรายินดีที่เรือขุดเจาะทั้ง 3 ลำสามารถหาสัญญาที่มีอัตราค่าจ้างรายวันที่สูงมากได้ และปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นวิสัยทัศน์ของเรากลายเป็นจริงขึ้นมาผ่านความสำเร็จของ AOD ในครั้งนี้ และ ซาอุดีอรามโค ได้กลายมาเป็นหนึ่งในลูกค้ารายสำคัญที่สุดของกลุ่มเราในเวลาเพียงไม่นาน เริ่มตั้งแต่สัญญา 5 ปีสำหรับการว่าจ้างให้เป็นผู้ดำเนินการงานตรวจสอบ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาแท่นขุดเจาะน้ำมัน โดยในอนาคตเราคาดว่าตลาดตะวันออกกลางยังคงเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับหน่วยธุรกิจต่างๆ ของเรา”
ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ AOD ได้ออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 20 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5 เหรียญสหรัฐ เพื่อระดมเงินทุนจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเตรียมรับมอบเรือขุดเจาะทั้ง 2 ลำ ซึ่งสองผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน AOD ต่างก็จับจองซื้อหุ้นดังกล่าวทั้งหมด ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองหุ้นหลังจากการเพิ่มทุนของเมอร์เมด และซีดริล เพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 33.76% และ 66.18% ตามลำดับ ทั้งนี้ ซีดริล ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเมอร์เมด คือ ผู้นำในการให้บริการเรือขุดเจาะในทะเลน้ำลึก และยังรับหน้าที่ในการดูแลด้านการตลาดให้แก่ AOD อีกด้วย