เกมปาเป้า
แม้ดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ แต่บรรยากาศการซื้อขายยังรักษาสถานภาพความร้อนแรงอย่างคงเส้นคงวา โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก ซึ่งเคลื่อนไหวอย่างหวือหวา และนักลงทุนรายย่อยแห่เข้าไปเก็งกำไรอย่างคึกคัก ขณะที่ราคาโดยส่วนใหญ่ขยับขึ้นจนไม่อาจจะประเมินด้วยปัจจัยพื้นฐานได้ เพราะเป็นการเล่นกันด้วยความคาดหวังในอนาคตซึ่งไม่รู้ว่าจะดีจริงหรือไม่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,560.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.63 จุด มูลค่าซื้อขาย 66,085 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 461 ล้านบาท
หุ้นขนาดใหญ่มีการปรับตัวลงมาเนื่องจากนักลงทุนไม่ได้ซื้อ แต่การดีดตัวอย่างร้อนแรงของหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กสามารถผลักดันดัชนีให้ขยับเป็นบวกได้ ซึ่งถือว่าตลาดค่อนข้างแข็ง โดยไม่มีสัญญาณการปรับฐานใหญ่ แต่มีแนวโน้มของการแกว่งตัวขึ้นและอาจจะแกว่งตัวขึ้นไปถึงระดับ 1,600 จุดได้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรายย่อยก็มีความหวั่นไหวในความผันผวนเหมือนกัน โดยทยอยขายหุ้นออกตลาด เพียงแต่ยังไม่ยอมถอย และสนุกสนานกับการเก็งกำไรหุ้นรายตัวอยู่ เพราะการเล่นหุ้นรายตัวมีลักษณะเหมือนเกมปาเป้า ไม่ว่าจะซื้อตัวไหนมักจะมีกำไรซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามปกติในยามตลาดขาขึ้น แต่ถ้าตลาดเกิดเปลี่ยนสู่ขาลงจะต้องระวัง เพราะถือตัวไหนไว้มักขาดทุน
ส่งท้ายสัปดาห์วันพรุ่งนี้ก็ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุร้าย และตลาดคงจะร้อนแรงต่อไป โดยเฉพาะการเก็งกำไรหุ้นรายตัวซึ่งไม่มีใครห้ามนักลงทุนที่กำลังเมามันกับภาวะเกมปาเป้าได้ นอกจากนักลงทุนจะห้ามใจตัวเองอย่าเพลินจนลืมไปว่า หุ้นไม่ได้ขึ้นเพียงขาเดียว ถึงจุดหนึ่งจะลง และต้องจับสัญญาณการปรับฐานลงให้ดีแม้ตอนนี้ยังมองไม่เห็นก็ตาม
แม้ดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ แต่บรรยากาศการซื้อขายยังรักษาสถานภาพความร้อนแรงอย่างคงเส้นคงวา โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก ซึ่งเคลื่อนไหวอย่างหวือหวา และนักลงทุนรายย่อยแห่เข้าไปเก็งกำไรอย่างคึกคัก ขณะที่ราคาโดยส่วนใหญ่ขยับขึ้นจนไม่อาจจะประเมินด้วยปัจจัยพื้นฐานได้ เพราะเป็นการเล่นกันด้วยความคาดหวังในอนาคตซึ่งไม่รู้ว่าจะดีจริงหรือไม่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,560.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.63 จุด มูลค่าซื้อขาย 66,085 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 461 ล้านบาท
หุ้นขนาดใหญ่มีการปรับตัวลงมาเนื่องจากนักลงทุนไม่ได้ซื้อ แต่การดีดตัวอย่างร้อนแรงของหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กสามารถผลักดันดัชนีให้ขยับเป็นบวกได้ ซึ่งถือว่าตลาดค่อนข้างแข็ง โดยไม่มีสัญญาณการปรับฐานใหญ่ แต่มีแนวโน้มของการแกว่งตัวขึ้นและอาจจะแกว่งตัวขึ้นไปถึงระดับ 1,600 จุดได้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรายย่อยก็มีความหวั่นไหวในความผันผวนเหมือนกัน โดยทยอยขายหุ้นออกตลาด เพียงแต่ยังไม่ยอมถอย และสนุกสนานกับการเก็งกำไรหุ้นรายตัวอยู่ เพราะการเล่นหุ้นรายตัวมีลักษณะเหมือนเกมปาเป้า ไม่ว่าจะซื้อตัวไหนมักจะมีกำไรซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามปกติในยามตลาดขาขึ้น แต่ถ้าตลาดเกิดเปลี่ยนสู่ขาลงจะต้องระวัง เพราะถือตัวไหนไว้มักขาดทุน
ส่งท้ายสัปดาห์วันพรุ่งนี้ก็ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุร้าย และตลาดคงจะร้อนแรงต่อไป โดยเฉพาะการเก็งกำไรหุ้นรายตัวซึ่งไม่มีใครห้ามนักลงทุนที่กำลังเมามันกับภาวะเกมปาเป้าได้ นอกจากนักลงทุนจะห้ามใจตัวเองอย่าเพลินจนลืมไปว่า หุ้นไม่ได้ขึ้นเพียงขาเดียว ถึงจุดหนึ่งจะลง และต้องจับสัญญาณการปรับฐานลงให้ดีแม้ตอนนี้ยังมองไม่เห็นก็ตาม