xs
xsm
sm
md
lg

ทองทั้งปีไม่ถึง 27,000 ตปท.ปล่อยข่าวทุบ บาทแข็งกด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกสมาคมค้าทองคำคาด ทั้งปียากราคาทองคำกลับมาแตะ 27,000 บาท เหตุผันผวนจัด อีกทั้งโดนปล่อยข่าวทุบราคาจากการเก็งกำไร ล่าสุด จับมือหอการค้าตั้งศูนย์วิจัยทองฯ ให้ความรู้ข้อมูลแก่นักลงทุน โดยรวมเชื่อไม่หลุดลงไปต่ำกว่า 21,000 บาท ส่วนเกาหลีใต้เก็บทองคำเข้าทุนสำรองเพิ่ม เพราะไม่มั่นใจต่อค่าเงินสกุลหลักหลังโดนรัฐบาลแต่ละประเทศทั้งอัดฉีด และแทรกแซงจนมีความเสี่ยง แต่ไม่มีผลต่อราคาในประเทศมากนัก

    นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงแนวโน้มราคาทองคำในช่วงนี้ว่า ราคาทองคำในปีนี้มีความผันผวนขึ้นลงแต่ละ 7-8 ครั้งต่อวัน ทำให้คาดว่าราคาทองคำปีนี้จะต่ำสุด 1,500 เหรียญ/ออนซ์ สูงสุด 1,900 เหรียญ /ออนซ์ หรือ 21,500-26,500 บาท ภายใต้ค่าเงินบาท 29.80 บาท/เหรียญ และหากค่าเงินบาทแข็งค่ามากขึ้น จะส่งผลให้ราคาทองคำลงอีก โดยบาทที่แข็งค่าร้อยละ 3 จะมีผลต่อราคาทองคำบาทละ 700 บาท

          อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำหากปรับลดลงมากก็จะมีโอกาสที่ราคาทองปรับขึ้นได้ร้อนแรงเช่นกัน แต่แนวโน้มคาดการณ์ได้ยาก เนื่องจากปัจจุบันขึ้นอยู่กับการเก็งกำไรเป็นหลัก เห็นได้จากการที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงมากถึง 3,000 บาทตั้งแต่ช่วงต้นปี

“ปัจจัยหลักของการเคลื่อนไหวราคาทองคำมาจากการสร้างกระแสข่าวเพื่อเก็งกำไร เช่น จากกรณีที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ขายทองคำออกมา กรณีการปล่อยการกองทุนทองคำของจอร์จ โซรอส ทำให้นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้น โดยหากราคาปรับลงมามาก หรือต่ำกว่า 1,545 เหรียญ ก็มีโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นแรงกว่า1,900 เหรียญ แต่ภาพรวมเชื่อว่าปีนี้ทองคำจะกลับไปถึง 27,000 บาทยาก"

ด้านศูนย์วิจัยทองคำ ซึ่งจัดตั้งขึ้นจากความร่วมมือของสมาคมค้าทองคำ, สมาคมเพชรพลอยเงินทอง, บริษัทจีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ และคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือน มี.ค.56 อยู่ที่ 44.07 (เกณฑ์การวัดจาก 0-100 หากต่ำกว่า 50 ลงไป แสดงว่า ผู้ค้าทอง และผู้ลงทุนเชื่อว่าราคาทองคำอยู่ในช่วงการปรับตัวลง  แต่หากเกิน 50 ขึ้นไป มองว่าเป็นปัจจัยบวกจากราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น) ซึ่งแสดงว่าความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน และผู้ค้าทองคำอยู่ในระดับที่ค่อนข้างน้อย โดยมีปัจจัยจากความผันผวนจากการเก็งกำไรในทองคำ และการแข็งค่าของเงินบาท ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 75.72 สะท้อนมุมมองเชิงบวกว่า ราคาทองคำในประเทศจะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในช่วงนี้ราคาทองถูกกดดันจากหลายปัจจัยลบ ทั้งการขายทำกำไรของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ การปรับลดการลงทุนทองคำของกองทุนรวมอีทีเอฟ ทองคำ และกระแสข่าวในเชิงลบจากต่างประเทศ แต่คาดว่าในระยะสั้น แนวรับราคาทองโลกที่ 1,550 เหรียญ/ออนซ์ ยังน่าจะรับเอาไว้ได้ และกรอบการเคลื่อนไหวทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 1,500 ถึง 1,800 เหรียญ/ออนซ์

ด้านนายพิชญา พิสุทธิกุล นายกสมาคมเพชรพลอยเงินทอง กล่าวว่า ราคาทองคำแท่งในประเทศปีนี้ ไม่น่าจะลงไปต่ำกว่า 21,000 บาท เพราะว่าในเชิงพื้นฐานการลงทุนในทองคำยังไม่ได้ย่ำแย่มากนัก เพียงแต่กองทุนเฮดจ์ฟันด์จะสลับการลงทุนในตลาดหุ้นกับทองคำเป็นช่วงๆ มากกว่า ดังนั้น ถ้าเห็นลงมา 21,500 บาท ก็ทยอยลงทุนได้

เกาหลีเก็บทองเพิ่มเพราะไม่ไว้ใจสกุลเงิน ตปท.

สำหรับกรณีที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้เพิ่มการถือครองทองคำในเดือน ก.พ. เพื่อกระจายความเสี่ยงในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ เนื่องจากความเสี่ยงขั้นรุนแรงมีโอกาสเกิดมากขึ้น โดยได้ซื้อทองคำแท่งน้ำหนักรวม 20 ตันในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้การถือครองเพิ่มขึ้นเป็น 104.4 ตัน เทียบเท่า 1.5% ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั้งหมด

นายสัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจ ตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก จำกัด กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เกาหลีใต้ประกาศซื้อทองคำสะสมไว้ในทุนสำรองเพิ่มนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความไม่มั่นใจต่อสกุลเงินของโลก เนื่องสกุลเงินหลัก เช่น ดอลลาร์สหรัฐ เยน ยูโร หยวน ถูกแทรกแซงจากประเทศของตนผ่านการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ จนส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่า ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้เลือกสะสมทองคำเพิ่มในทุนสำรองมากกว่า เพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของค่าเงิน และทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากสุด

ทำให้แนวโน้มราคาทองคำจากนี้ ประเมินว่า ราคาทองคำยังไม่เคลื่อนที่ไปในทิศทางหนึ่งทางใดมากนัก โดยน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,670 เหรียญ/ออนซ์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 21,500 -23,000 บาทต่อทองคำ 1 บาท จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 22,350 บาท ในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว นักลงทุนอาจได้เห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาถึงระดับ 1,600 เหรียญ/ออนซ์ แต่เชื่อว่าจะไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ และราคาทองคำจะปรับตัวลงไปอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น