xs
xsm
sm
md
lg

ก.ล.ต. เผยสายการบิน “นกแอร์” เตรียมเข้าตลาดฯ คาดเปิดขายไอพีโอ 187.5 ล้านหุ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ก.ล.ต. เผยสายการบิน “นกแอร์” ยื่นไฟลิ่งแล้ว 6 มี.ค. เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ คาดเปิดขายไอพีโอ 187.5 ล้านหุ้น โดยมี ธ.ไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บล.ไทยพาณิชย์ เป็นอันเดอร์ไรต์

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ยื่น Filing version แรก เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2556 เนื่องจากบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชน (IPO) จำนวน 187.50 ล้านหุ้น โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท 125 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิม 62.50 ล้านหุ้น เสนอขายโดยบริษัท Aviation Investment International จำกัด

ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บล.ไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

บมจ.สายการบินนกแอร์ เดิมชื่อ บริษัท สกายเอเชีย จำกัด เป็นสายการบินราคาประหยัด(Low-Cost Airline) ที่ให้บริการขนส่งทางอากาศ ซึ่งครอบคลุมเส้นทางการบินมากที่สุดในประเทศไทย โดย ณ วันที่ 28 ก.พ.2556 ให้บริการเที่ยวบินทั้งหมด 23 เส้นทางการบิน ครอบคลุม 21 จุดหมายปลายทาง และมีเที่ยวบินทั้งสิ้น 497 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ผลการดำเนินงานปี 2555 บริษัทฯ มีรายได้หลักรวม 8,217.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 504.7 ล้านบาท และ ณ 31 ธ.ค.2555 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 2,252 ล้านบาท หนี้สินส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้การค้า 419.9 ล้านบาท และมีเจ้าหนี้อื่นที่เป็นรายได้รับที่ยังไม่รับรู้จำนวน 683.7 ล้าบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 888.1 ล้านบาท

ณ วันที่ 28 ก.พ.2556 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 625 ล้านบาท และทุนชำระแล้ว 500 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ภายหลังจากเสนอขาย IPO ในครั้งนี้ จะมีทุนชำระแล้ว 625 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 28 ก.พ.2556 คือ บมจ.การบินไทย (THAI) ถือหุ้น 245 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 49% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 39.2% และบริษัท Aviation Investment International จำกัด ถือหุ้น 125 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% หลังขาย IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 10% หรือถือหุ้น 62.5 ล้านหุ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าประมาณร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี
กำลังโหลดความคิดเห็น