ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เพิ่มหุ้นอ้างอิงของ Stock Futures อีก 20 หุ้น จากปัจจุบันมี 30 หุ้น เริ่ม 18 มี.ค. นี้ ตอบสนองผู้ลงทุนใช้บริหารพอร์ตเหมาะสมกับภาวะตลาด เผยตั้งแต่ต้นปีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยของ Stock Futures เพิ่มถึง 266% จากปีก่อนหน้า
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในวันที่ 18 มีนาคมที่จะถึงนี้ TFEX จะเพิ่มหุ้นอ้างอิงของ Stock Futures อีก 20 หุ้น จากปัจจุบันที่มี 30 หุ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนในการใช้ Stock Futures บริหารพอร์ตลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกในการซื้อขาย ทำให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกใช้ Stock Futures ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลาได้ดียิ่งขึ้น”
สำหรับ Stock Futures ทั้ง 20 หุ้นที่จะเพิ่มใหม่นี้ เป็นหุ้นในดัชนี SET100 ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ตั้งแต่ 10,000 ล้านบาทขึ้นไป และมีสภาพคล่องสูงเป็นที่ต้องการของผู้ลงทุน โดยประกอบด้วยหุ้นของ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV), อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA), ท่าอากาศยานไทย (AOT), บางจากปิโตรเลียม (BCP), กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH), โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH), เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC), บางกอกแลนด์ (BLAND), โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา (CENTEL), ช.การช่าง (CK), เซ็นทรัลพัฒนา (CPN), ชิน คอร์ปอเรชั่น (INTUCH), จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS), ธนาคารเกียรตินาคิน (KK), พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC), ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (ROBINS), แสนสิริ (SIRI), ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC), ไทยคม (THCOM) และ ทีพีไอ โพลีน (TPIPL)
โดยหุ้นอ้างอิงชุดใหม่จะเข้ามาเพิ่มเติมกับหุ้นอ้างอิงในปัจจุบันที่มีทั้งสิ้น 30 หุ้น ครอบคลุมใน 10 หมวดธุรกิจ ประกอบด้วย หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (TRUE, ADVANC, DTAC) ขนส่งและลอจิสติกส์ (BTS, TTA, THAI) ธนาคาร (KTB, TMB, KBANK, BAY, SCB, BBL, TCAP) ธุรกิจการเกษตร (STA) ปิโตเคมีและเคมีภัณฑ์ (IVL) พลังงานและสาธารณูปโภค (IRPC, PTTEP, PTT, BANPU, TOP) อสังหาริมทรัพย์ (ITD, QH, LH, PS) พาณิชย์ (HMPRO, CPALL) วัสดุก่อสร้าง (SCC) และอาหารและเครื่องดื่ม (CPF, TUF, MINT) โดยการเพิ่ม 20 หุ้นใหม่นี้ จะทำให้หุ้นอ้างอิงของ Stock Futures ขยายขอบเขตเพิ่มอีก 2 หมวดธุรกิจ คือ การแพทย์ และท่องเที่ยวและสันทนาการ
สำหรับช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ Stock Futures มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 32,406 สัญญา เพิ่มขึ้น 266% จากปี 2555 ที่ 8,849 สัญญา ขณะที่สถานะคงค้างสูงถึง 390,594 สัญญา ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเกิด
จากการที่ปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ลงทุนใช้ Stock Futures เป็นเครื่องมือบริหารพอร์ตลงทุน และบริหารความเสี่ยงของพอร์ตหุ้นเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสามารถใช้ทำกำไรได้โดยใช้ต้นทุนต่ำ ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูง ทั้งนี้ Stock Futures ที่ได้รับความนิยมซื้อขายจากผู้ลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ BTS (19.56%), ITD (14.84%), QH (14%), KTB (12.08%) และ TMB (11.98%) ตามลำดับ