บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ มองกรอบราคาทองคำที่ $1,530-1,620/Oz หรือ 21,590-22,860 บาท/บาททองคำ (อ้างอิงค่าเงินบาทที่ 29.77 บาท/$) โดยแนะให้ทยอยขาย หรือเปิดสถานะขายที่แนวต้าน $1,590-1,600/Oz หรือ 22,440-22,580 บาท/บาททองคำ โดยให้ซื้อกลับเพื่อทำกำไรที่แนวรับ $1,570/Oz หรือ 22,150 บาท/บาททองคำ และ $1,555/Oz หรือ 21,980บาท/บาททองคำ ตามลำดับ
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์ทองคำ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) GBX แนะนำกรอบการลงทุนราคาทองคำในสัปดาห์นี้ (4-8 มีนาคม 2556) ว่า โกลเบล็ก ให้กรอบราคาทองคำที่ $1,530-1,620/Oz หรือ 21,590-22,860 บาท/บาททองคำ (อ้างอิงค่าเงินบาทที่ 29.77 บาท/$) โดยแนะนำให้ทยอยขาย หรือเปิดสถานะขายที่แนวต้าน $1,590-1,600/Oz หรือ 22,440-22,580 บาท/บาททองคำ ซึ่งเป็นแนวต้านทางจิตวิทยา และแนวต้านตามเส้นแนวโน้มขาลง โดยให้ซื้อกลับเพื่อทำกำไรที่แนวรับ $1,570/Oz หรือ 22,150 บาท/บาททองคำ และ $1,555/Oz หรือ 21,980 บาท/บาททองคำ ตามลำดับ สำหรับปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ คือ เรื่องของตัวเลขเศรษฐกิจทางด้านดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ ยอดจ้างงานทั่วประเทศ ยอดดุลการค้าสหรัฐฯ ที่คาดการณ์ว่าจะลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทองคำในทิศทางบวก
ทั้งนี้ สำหรับราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น นักวิเคราะห์ทองคำโกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาได้ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน โดยราคาปิดอยู่ที่ $1,580.80/Oz ปรับตัวลดลงประมาณ $4.10/Oz หรือคิดเป็น 0.26% (-5.89%จากต้นปี) โดยมีจุดสูงสุดที่ $1,619.45/Oz และมีจุดต่ำสุดที่ $1,564.87/Oz โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นก่อนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังอังกฤษถูกมูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจากระดับ AAA สู่ระดับ Aa1 รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกฯ อิตาลีที่คะแนนเสียงของ นายแบลุสโคนี มีระดับใกล้เคียงกับของคู่แข่ง ทำให้อิตาลีอาจต้องทำการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ที่ยืนยันว่า จะยังคงดำเนินมาตรการ QE ต่อไปเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่มเสถียรภาพแก่ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ แต่ในช่วงปลายสัปดาห์ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งในส่วนของยอดผู้ขอรับสวัสดิการ ยอดทำสัญญาขายบ้าน และดัชนีภาคการผลิตออกมาดีกว่า คาดส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจึงมีแรงขายออกมาในราคาทองคำ สอดคล้องกับการลดสถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR ในสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวน 18.96 ตัน ทั้งนี้ การปรับลดรายจ่ายอัตโนมัติ จำนวน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ ในวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา อาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ขยายตัวเท่าที่ควร ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำในระยะยาว