xs
xsm
sm
md
lg

ANAN โชว์ศักยภาพ Q4/55 พลิกมีกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 4/55 พลิกมีกำไรสุทธิ 27 ล้านบาท เติบโต 124% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลั่นจะเริ่มเห็นผลการดำเนินงานของ ANAN ดีขึ้นตั้งแต่ปี 2556 นี้เป็นต้นไป หลังหมดภาระรายการพิเศษทางบัญชีที่เหลืออีกเพียง 110 ล้านบาท และจะตัดจำหน่ายหมดภายในปีนี้ ทำให้อนาคตสดใส เหตุมีทั้งฐานทุนที่ขยายเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท ในขณะที่ฐานะทางการเงินสุดแข็งแกร่ง D/E ลดเหลือแค่ 0.44 เท่า

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  (ANAN) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ในไตรมาสที่ 4/55 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิ 27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทมียอดรายได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2555 เท่ากับ 1,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และบริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีเงินได้นิติบุคคล และรายการพิเศษ (การตัดจ่ายมูลค่า Purchase Price Allocation (PPA)) เท่ากับ 243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 247% ส่งผลให้ผลการดำเนินงานทั้งปี 2555 ของ ANAN มีผลขาดทุนสุทธิ 287 ล้านบาท  ลดลง 9.5% จากปี 2554 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 317 ล้านบาท

“บริษัทมีความยินดีที่สามารถนำผลการดำเนินงานกลับสู่การทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว ในไตรมาสที่ 4/55 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ANAN ได้เข้ามาระดมทุน และเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน ประกอบกับการโอนกรรมสิทธิ์ที่ทำได้มากกว่าเป้าหมาย ทำให้ผลการดำเนินงาน ANAN กลับมาอยู่ในสถานะที่ทำกำไรได้ ในขณะที่รายการพิเศษทางบัญชีซึ่งเกิดขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการคอนโดมิเนียม 12 โครงการ จากผู้ร่วมลงทุนในปี 2553 ซึ่งคงเหลือประมาณ 110 ล้านบาท คาดว่าจะตัดจำหน่ายหมดภายในปี 2556 นี้  จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในอนาคต” นายชานนท์กล่าว  

นายชานนท์ กล่าวอีกว่า ANAN ยังคงเป้าหมายการเป็นผู้นำในการพัฒนาที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้า ซึ่งเมื่อประกอบกับฐานทุนใหม่ที่ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาท (จากการระดมทุนโดยการขายหุ้น IPO เมื่อปลายปี 2555) และอัตราส่วนหนี้สิน (เฉพาะหนี้สินที่มีภาระการจ่ายดอกเบี้ย) ต่อส่วนทุนที่อยู่ในระดับต่ำที่ 0.44 ต่อ 1 หรือไม่มีหนี้ที่มีภาระจ่ายดอกเบี้ยเลยเมื่อนำมาหักกับเงินสดในมือ (Net Debt) ทำให้บริษัทอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่ง สามารถขยายธุรกิจได้ตามศักยภาพตามการขยายตัวอย่างมากของระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยหลังจากที่ได้เงินจากการขายหุ้น  IPO บริษัทฯ ก็ได้ดำเนินการซื้อที่ดินซึ่งใช้ในการพัฒนาเพื่อรายได้ในปี 2557 ได้ครบถ้วนตามเป้าหมายการรับรู้รายได้แล้ว และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ในการซื้อที่ดินในทำเลใกล้สถานีรถไฟฟ้า ที่ยังสามารถให้ผลตอบแทนในรูปของ อัตรากำไรเบื้องต้น (Gross Margin) ที่ 35% ตามเป้าหมายของบริษัท

“ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ เราจะทำการเปิดขายโครงการใหม่ในแบรนด์ใหม่คือ “Elio” (เอลลิโอ) ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ของการอยู่อาศัยในเมืองตามที่อนันดาฯ ถนัด ที่ราคาย่อมเยากว่า เพื่อขยายตลาดตามศักยภาพ นอกจากนั้น ยังจะทำการเปิดขายอย่างเป็นทางการในโครงการ Morph 38 (ตึก Ashton) ซึ่งเสร็จสมบูรณ์พร้อมโอน รวมถึงการเปิดขาย “Atoll” โครงการบ้านจัดสรร ที่มีทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ บริเวณโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งการได้มาซึ่งโครงการบ้านจัดสรร ในราคาที่มีส่วนลดอย่างมากจากมูลค่าทางบัญชีทำให้บริษัทสามารถตั้งราคาที่ดี และคุ้มค่าที่สุดในทำเลดังกล่าว โดยสามารถคงอัตราการทำกำไรไว้ได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างไม่เคยมีมาก่อนที่จะนำเสนอให้แก่ผู้บริโภค ทั้งหมดเป็นเพียงชุดแรกของการเปิดขายโครงการในระยะเวลาช่วงสั้นนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นดำเนินการต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามแผนการเติบโตตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้แก่ผู้ลงทุนในช่วงการเสนอขายหุ้นของบริษัท”  นายชานนท์กล่าวในที่สุด

สำหรับโครงการใหม่ Elio ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี BTS ปุณณวิถี เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ต้องการที่อยู่อาศัยที่ไปมาสะดวกระหว่างที่ทำงาน และศูนย์กลางด้านการบันเทิงและจับจ่ายใช้สอยในกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการรวม 4,600 ล้านบาท ราคาต่อห้องเพียง 1.29 ล้านบาท โครงการนี้เริ่มโอนต้นปี 2557

โครงการ Ashton-Morph 38 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 38 ใกล้สถานี BTS ทองหล่อ มีมูลค่ารอโอน 2,800 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ได้ขายไปแล้ว 1,000 ล้านบาท เป็นการขายก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อตึกเสร็จ โครงการนี้จะขายหมด และโอนหมดภายในปี 2556

โครงการ Atoll เป็นโครงการบ้านจัดสรรซึ่งมีทั้งหมด 7 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 7,300 ล้านบาท คาดว่าจะขาย และโอนทั้งหมดในระยะเวลา 3 ปี (2556-2558)

ทั้งนี้  ANAN เพิ่งประกาศข่าวการซื้อที่ดินอีก 2 แปลงเพิ่มเติมจากที่ได้กล่าวถึงมาแล้วข้างต้น ซึ่งจะใช้ในการพัฒนาโครงการ Ideo เริ่มในปี 2556 นี้ มูลค่าโครงการของทั้งสองรวมแล้วมากกว่า 5,500 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น