เอเจนซี่ฯ แจงผลศึกษาตลาดอสังหาฯ ต่างจังหวัดยังไม่พบปัญหาที่อยู่อาศัยล้นตลาด คาดโครงการเปิดใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระบายหมดใน 12 เดือน ส่วนโซนระยอง-พัทยา-ชลบุรี คาดว่าจะสามารถระบายออกภายใน 6 เดือน ขณะที่อยู่อาศัยในเมืองท่องเที่ยวก็ยังไม่มีสัญญาณการล้นตลาด
น.ส.ปัทมา จันทรานุกุล กรรมการอำนวยการ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด หรือ AREAกล่าวว่า จากการสำรวจตลาดทั่วประเทศยังไม่พบจังหวัดใดที่จะมีปัญหาที่อยู่อาศัยล้นตลาด ตัวอย่างเช่น จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบางคนเห็นว่าอาจมีปัญหาการล้นตลาดนั้น ในความเป็นจริงที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ขายดีมาก และเพิ่งฟื้นตัวเมื่อปี พ.ศ.2552 ที่ผ่านมานี้เอง
สำหรับจังหวัดที่กำลังโดดเด่น และได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากส่วนกลางที่จะเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการ ได้แก่ จังหวัดหลักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแนวรถไฟฟ้าความเร็วสูง ได้แก่ หนองคาย อุดรธานี และขอนแก่น จังหวัดเหล่านี้มีบริษัทมหาชนจากกรุงเทพมหานครเริ่มเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่น การลงทุนของบริษัทมหาชนส่วนใหญ่มุ่งเน้นที่โครงการอาคารชุดซึ่งปรากฏว่า ขายดีเป็นอย่างมาก และยังไม่เกิดภาวะล้นตลาดแต่อย่างใดเลย
“ภาพรวมของการลงทุนที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ปรากฏว่า 52% อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อีก 9% อยู่ในเขตเมืองพัทยา ซึ่งปรากฏว่า สินค้าในเมืองพัทยาขายดีมาก ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย เอเจนซี่ฯ พบว่า สินค้าที่อยู่อาศัยเหล่านั้นน่าจะขายหมดในเวลา 6 เดือน ส่วนในกรณีกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลน่าจะขายหมดในเวลา 12 เดือน ดังนั้น จึงจะเห็นได้ว่าตลาดยังไปได้ด้วยดี”
ตลาดที่อยู่อาศัยที่มีความคึกคักโดดเด่น ได้แก่ ภูเก็ต ซึ่งมีสัดส่วนในตลาดประมาณ 9% รองลงมาคือ ชะอำ-หัวหิน ซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 5% ต่อด้วยเชียงใหม่และสมุย จะเห็นด้วยว่า เมืองใหญ่ๆ เหล่านี้ส่วนมากเป็นเมืองท่องเที่ยวจึงยังมีกำลังซื้อจากต่างประเทศอีกต่างหาก โดยเฉพาะนักลงทุนชาวรัสเซีย ด้วยเหตุนี้ การล้นตลาดจึงยังไม่เกิดขึ้น สำหรับเมืองชายแดนทั่วทุกภูมิภาคกำลังเติบโตแม้แต่เมืองชายแดนในภาคใต้ ดังนั้น สถานการณ์จึงไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด