พรีเชียส ชิพปิ้ง คาดปีนี้ผลประกอบการแย่สุด จากค่าระวางเรือต่ำสุด ประเมินเริ่มฟื้นครึ่งปีหลังปี 57 ผู้บริหารแจงหากบริษัทยังคงมีกำไร-มีเงินสดเพียงพอ คงนโยบายจ่ายปันผลทุกไตรมาส
นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน)หรือ PSL เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,828.02 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 141 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนเรือใหม่ที่อยู่ในระบบมีจำนวนมากกว่าความต้องการใช้เรือ ทำให้ดัชนีค่าระวางเรืออยู่ในระดับที่ต่ำสุดเป็นอันดับ3 ในประวัติการณ์ แต่บริษัทเชื่อว่าบริษัทจะมีอัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยต่อวันต่อลำของบริษัทจะสูงกว่าตลาดประมาณ 10% โดยปี 2555 บริษัทมีรายได้เฉลี่ยต่อวันต่อลำ อยู่ที่ 8,221 เหรียญสหรัฐต่อลำเรือ
สำหรับขณะนี้ บริษัทจะมีการทำสัญญาเดินเรือระยะสั้นเป็นรายเที่ยวจากการที่ค่าระวางเรืออยู่ในระดับต่ำ ซึ่งหากค่าระวางเรือปรับตัวมาอยู่ที่ 1.1 หมื่นเหรียญต่อลำต่อวัน บริษัทก็จะกลับมาทำสัญญาเช่าเรือเป็นระยะยาวมากขึ้น โดยขณะนี้ บริษัทมีการทำสัญญาให้เช่ารือไปแล้ว จำนวน 17% อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยต่อวัน 11,168 เหรียญสหรัฐต่อวัน มูลค่ารวมของสัญญาเช่าเรือ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ซึ่งบริษัทคาดว่าปีนี้จะเป็นปีที่แย่ที่สุดของบริษัท แต่บริษัทคาดว่าธุรกิจเดินเรือน่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 จากมองว่า ความต้องการใช้เรือกับจำนวนเรือจะเข้าสู่ภาวะสมดุล จากที่ปัจจุบันที่จำนวนเรือมากกว่าความต้องการใช้เรือ อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจปีนี้จะแย่ที่สุด ซึ่งหากบริษัทมีกำไร และมีเงินสดเพียงพอก็จะยังคงนโยบายในการจ่ายเงินปันผลทุกไตรมาสต่อไป
สำหรับในปีนี้ บริษัทใช้เงินลงทุนไปแล้ว จำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการซื้อเรือ แต่ทั้งปีนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับจำนวนเรือที่จะมีการซื้อเพิ่ม โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัญญาซื้อเรือ จำนวน 8 ลำ ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบประมาณปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า จำนวน 2 ลำ ที่เหลือก็จะมีการทยอยส่งมอบในปีต่อไป
นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน)หรือ PSL เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,828.02 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 141 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนเรือใหม่ที่อยู่ในระบบมีจำนวนมากกว่าความต้องการใช้เรือ ทำให้ดัชนีค่าระวางเรืออยู่ในระดับที่ต่ำสุดเป็นอันดับ3 ในประวัติการณ์ แต่บริษัทเชื่อว่าบริษัทจะมีอัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยต่อวันต่อลำของบริษัทจะสูงกว่าตลาดประมาณ 10% โดยปี 2555 บริษัทมีรายได้เฉลี่ยต่อวันต่อลำ อยู่ที่ 8,221 เหรียญสหรัฐต่อลำเรือ
สำหรับขณะนี้ บริษัทจะมีการทำสัญญาเดินเรือระยะสั้นเป็นรายเที่ยวจากการที่ค่าระวางเรืออยู่ในระดับต่ำ ซึ่งหากค่าระวางเรือปรับตัวมาอยู่ที่ 1.1 หมื่นเหรียญต่อลำต่อวัน บริษัทก็จะกลับมาทำสัญญาเช่าเรือเป็นระยะยาวมากขึ้น โดยขณะนี้ บริษัทมีการทำสัญญาให้เช่ารือไปแล้ว จำนวน 17% อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยต่อวัน 11,168 เหรียญสหรัฐต่อวัน มูลค่ารวมของสัญญาเช่าเรือ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ซึ่งบริษัทคาดว่าปีนี้จะเป็นปีที่แย่ที่สุดของบริษัท แต่บริษัทคาดว่าธุรกิจเดินเรือน่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 จากมองว่า ความต้องการใช้เรือกับจำนวนเรือจะเข้าสู่ภาวะสมดุล จากที่ปัจจุบันที่จำนวนเรือมากกว่าความต้องการใช้เรือ อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจปีนี้จะแย่ที่สุด ซึ่งหากบริษัทมีกำไร และมีเงินสดเพียงพอก็จะยังคงนโยบายในการจ่ายเงินปันผลทุกไตรมาสต่อไป
สำหรับในปีนี้ บริษัทใช้เงินลงทุนไปแล้ว จำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการซื้อเรือ แต่ทั้งปีนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับจำนวนเรือที่จะมีการซื้อเพิ่ม โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัญญาซื้อเรือ จำนวน 8 ลำ ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบประมาณปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า จำนวน 2 ลำ ที่เหลือก็จะมีการทยอยส่งมอบในปีต่อไป