โดย...วันชัย พุทธทอง
“ผมคิดว่ามีผลกระทบกับความเชื่อมั่น การแสดงออกของกลุ่มคัดค้านบางครั้งต้องยอมรับว่า ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศ และความเชื่อมั่นในการลงทุน โดยเฉพาะเรื่องพลังงานที่มีความละเอียดอ่อน ถ้าค้านจนไม่มีพลังงานใช้กันจะทำอย่างไร เป็นการเสียโอกาสไปแล้ว ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม ภาพรวมของจังหวัดนครศรีธรรมราชเสียประโยชน์แน่ๆ”
ข้อความข้องต้นเป็นความเห็นที่ออกจากปากของ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ให้สัมภาษณ์สื่อในวันที่มีประเด็นการยกธงขาวยอมแพ้ของ บริษัทเชฟรอนฯ ที่จะมาปักธงในอ่าวท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
เพื่อจะให้ความรู้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ต่อไปเมื่อจะพูดกับใคร หรือให้สัมภาษณ์สื่อ จะได้มีข้อมูลภายในจังหวัดที่ตนเองเป็นผู้บริหารอย่างเป็นเหตุ เป็นผล ดูเป็นคนมีภูมิรู้สักหน่อย โดยจะนำเสนอข้อมูล “ชุมชน บ้านสระบัว” อ.ท่าศาลา ไม่ไกลจากศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชนี้เอง
ในวันนี้จะยังไม่ไปถกเถียงประเด็นพลังงานที่เสียโอกาสการลุงทุน เพราะเป็นการพูดลอยๆ เลอะเทอะ ไม่น่าใส่ใจ เพียงแต่จะยกตัวเลขให้เห็นว่า ข้อมูลเศรษฐกิจในชุมชนบ้านสระบัวตัวเลขจริงๆ เป็นเช่นนี้ และผู้ว่าฯ สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา เรียกลูกน้องที่เป็นพัฒนากร หรือประมงอำเภอไปตรวจสอบได้ตลอดเวลาถึงข้อมูลดังต่อไปนี้ว่าจริงเท็จประการใด
ข้อมูลทางเศรษฐกิจ จากการเก็บข้อมูลของชาวบ้าน โดยมีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นที่ปรึกษาทางวิชาการให้ พบว่า การจ้างงานในชุมชนบ้านสระบัวที่เกี่ยวเนื่องจากการทำประมงขนาดเล็กในชุมชน มีการจ้างงานจำนวน 455 คน มูลค่าการจ้างงาน 130,000 บาทต่อวัน หากคิดเป็นเดือนคิดเพียง 20 วัน เป็นเงิน 2,600,000 บาท หากคิดเป็นปี 26,000,000 บาท
หากลงไปดูในรายละเอียดพบว่า มีเรือประมงเล็ก จำนวน 22 ลำ จ้างแรงงาน 255 คน ค่าแรง 300 บาทต่อวัน รวมค่าจ้าง 76,500 บาทต่อวัน
มีโรงงานแกะเนื้อปู มีการจ้างแรงงาน จำนวน 80 คน ค่าแรง 400 บาทต่อวัน รวมค่าจ้างต่อวัน 32,000 บาท งานจ้างหมาดอวน มีจ้างงาน 30 คน ค่าแรง 300 บาทต่อวัน รวมค่าจ้าง 9,000 บาท วางเบ็ด 30 คน ค่าแรง 500 บาทต่อวัน รวมค่าจ้างต่อวัน 5,000 บาท แรงงานตัดอวน 10 คน ค่าแรง 200 บาทต่อวัน
แรงงานปลดปลา สาวอวน จ้างงาน 10 คน ทำงานประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าแรง 100 บาทต่อวัน โรงงานกั้ง จ้างงาน 10 คน ค่าแรงงาน 300 บาทต่อวัน รวมค่าจ้าง 3,000 บาท แม่ค่าคนกลางในชุมชน 30 คน รายได้เฉลี่ย 1,500 บาทต่อคน รวมค่าแรงต่อวัน 45,000 บาท
นี่คือข้อมูลทางเศรษฐกิจเพียงชุมชนเดียวของ อ.ท่าศาลา ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดควรรับรู้ไว้ ไม่ใช่พูดลอยๆ โดยไม่มีข้อมูลรองรับ ไม่ใช่พูดได้เพียงการยอมแพ้ของบริษัทเชฟรอนฯ ทำให้เสียโอกาสเท่านั้น!!!
ขอบอกว่าการที่บริษัทเชฟรอนฯ ยอมแพ้ยกธงขาวถอยทัพ เพราะสู้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะบริษัทเชฟรอนฯ ถูกหลอกโดยพวกนักวิชาการที่เขียน EIA และหรือ EHIA อันเป็นเท็จ แต่ถูกตรวจสอบพบในภายหลัง จึงต้องยอมแพ้
ดังนั้น การพูดนำเสนอผ่านสื่อต้องเป็นเหตุมีผลประกอบ อย่าพูดลอยๆ จะส่งผลให้ขาดความน่าเชื่อถือ ผู้ว่าฯ ยุคนี้ต้องก้าวไปให้พ้นจากคนเปิดป้ายได้แล้ว