ธปท.จับตาสถานการณ์น้ำมันโลก ชี้หากราคายังแพงต่อเนื่อง อาจต้องประเมินตัวเลขเงินเฟ้อใหม่ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง และติดตามดูอย่างใกล้ชิดยังคงเป็นเรื่องเดิม คือ การขยายตัวของสินเชื่อที่เติบโตค่อนข้างมาก รวมไปถึงสถานการณ์เรื่องหนี้ครัวเรือน
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ แม้จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเงินเฟ้อ แต่หากราคายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็อาจทำให้ ธปท. ต้องมาประเมินค่าเฉลี่ยของเงินเฟ้อในปีนี้ใหม่ ส่วนราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยทั้งปีในปีนี้ ธปท.มองไว้ที่ 105 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเป็นราคาน้ำมันดิบในตลาดดูไบ
“เราใช้ตัวเลขน้ำมันดิบดูไบ โดยมองเฉลี่ยทั้งปีที่ 105 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งราคาที่ขึ้นมาระดับนี้ยังไม่เป็นไร เพียงแต่เราไม่รู้ว่ามันจะขึ้นไปอีกนานแค่ไหน ดังนั้นก็ยังต้องรอดูกันในระยะยาว ซึ่งอัตราเงินเฟ้อในตอนนี้ยังไม่น่าห่วงมาก ยังเป็นไปตามที่เราประเมินไว้” นายเมธีกล่าว
ในปี 2556 ธปท.ประเมินค่าเฉลี่ยของเงินเฟ้อทั่วไปไว้ที่ 2.8% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.7% ขณะที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยนั้น ธปท.ประเมินไว้ที่ 4.9%
สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยนั้น ปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่เป็นปัจจัยจากต่างประเทศ เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์ต่างประเทศถือว่าเริ่มลดแรงกดดันลง และในแถลงการณ์ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ล่าสุดที่ออกมา ก็เห็นว่าความเสี่ยงทางเศรษฐกิจจากปัจจัยต่างประเทศเริ่มลดลง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ธปท. เป็นห่วงและติดตามดูอย่างใกล้ชิดยังคงเป็นเรื่องเดิม คือ การขยายตัวของสินเชื่อที่เติบโตค่อนข้างมาก รวมไปถึงสถานการณ์เรื่องหนี้ครัวเรือน