“กิตติรัตน์” โต้บีบ “ประสาร” ไขก๊อกผู้ว่าฯ ธปท. ยันไม่เป็นความจริง ลั่นทุกอย่าง “โปร่งใส-ตรวจสอบได้” ส่วนประเด็นฮอต “คลัง” ทิ้งหุ้น ปตท.-บินไทย 20% สะพัดในโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ไม่เป็นความจริง เพราะไม่เคยคิด และจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน พร้อมประณามการใช้วิธีสกปรก และขอให้หยุดการกระทำทันที เพราะไม่เกิดประโยชน์ แถมยันซ้ำไม่มีเรื่องใดที่ รบ.ชุดนี้ ไปแอบทำ และขอให้สบายใจได้ในทั้งเรื่องของ รสก. และปัญหาระดับหนี้สาธารณะ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า ภาคการเมืองบีบบังคับให้นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลาออกนั้น ตนเองขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ และขอให้หยุดปล่อยข่าวได้แล้ว
ส่วนที่มีกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์กระบุว่า กระทรวงการคลังเตรียมขายหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน บริษัทละ 20% เพื่อลดสถานะการเป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ไม่เคยคิด และจะไม่เกิดขึ้นแน่นอนในรัฐบาลชุดนี้ พร้อมประณามบุคคลที่ปล่อยข่าวดังกล่าวว่าใช้วิธีสกปรก และขอให้หยุดการกระทำ เพราะจะไม่เกิดประโยชน์ในทางที่ดี
“มันเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง โดยหลายต่อหลายหลายครั้งที่ผมพยายามไม่ให้ความสำคัญในประเด็นเหล่านั้น มองว่า เป็นการปล่อยข่าวเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจสำหรับคนที่ปล่อยข่าวในเรื่องนี้ เป็นประเด็นว่าทำไมผมถึงอยากพูด ยืนยันว่า ปตท. การบินไทยต้องการให้เป็นรัฐวิสาหกิจ โดยกระทรวงการคลังจะถือหุ้นเกิน 50% และไม่มีความประสงค์ หรือสนใจที่จะหลบหนี้สาธารณะ เพราะขณะนี้หนี้สาธารณะ หนี้เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอยู่ในระดับที่ต่ำมาก จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องหลบซ่อนหนี้สาธารณะ”
ทั้งนี้ ตนเองขอให้ผู้ที่ปล่อยข่าวย้อนกลับไปดูว่าสาเหตุที่เป็นหนี้เกิดจากอะไร และดูว่าการปล่อยข่าวสร้างความเสียหาย และลดความน่าเชื่อถือของประเทศลง มองว่าไม่เป็นผลดี ลดการถือครองหุ้นสำหรับการดำเนินการของรัฐบาล พยายามให้ความสำคัญมากด้วยความโปร่งใส และทุกเรื่องที่มีการดำเนินการสามารถอธิบายได้ และพยายามทำทุกเรื่องด้วยความรอบครอบ โดยเฉพาะร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พ.ศ. ... จำนวน 2 ล้านล้านบาท มีการดำเนินการที่รอบคอบ และปรึกษาหารือกับส่วนราชการ ที่สำคัญพร้อมจะร่วมหารือกับภาคเอกชนเพื่อให้เกิดความรอบคอบ
นายกิตติรัตน์ กล่าวเสริมว่า ตนเองไม่อยากให้ปล่อยข่าว หรือสร้างประเด็นดังกล่าวให้เป็นประเด็นทางการเมือง และลดความน่าเชื่อถือของประเทศ ผมขอตำหนิ และประณามว่าเป็นการกระทำที่ไม่นึกถึงประเทศชาติ หากเรื่องใดเป็นเรื่องจริงที่รัฐบาลจะปฏิบัติ ตนเองก็พร้อมที่จะแถลง และให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ในส่วนของกระทรวงการคลัง หากดำเนินการในเรื่องใดจะชี้แจงให้ทราบก่อนทุกครั้งเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน และยืนยันว่าไม่มีเรื่องใดที่แอบทำ ขอให้สบายใจได้ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ และให้สบายใจได้ในเรื่องของระดับหนี้สาธารณะ