โฆษก กทม.ห่วง “สุขุมพันธุ์” ถูกร้องเรียนโดยไม่เป็นธรรม ยิ่งเสนอข่าวบ่อยยิ่งเป็นการจูงใจ ปชช.ให้เกิดความรู้สึกมีผลต่อผู้สมัคร วอน กกต.จัดระเบียบดูแล
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่อยู่ในเวลา 60 วันก่อนหมดวาระ ตนตั้งข้อสังเกตว่า จะมีพฤติกรรมและพฤติการณ์ของนักการเมืองบางกลุ่ม ไปยื่นร้องเรียนกับหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบเพื่อให้มีการนำเสนอข่าวไปแล้ว ก็จะเป็นประเด็นที่สื่อมวลชนติดตามก็จะทำให้ผู้ที่กระทำการณ์ดังกล่าวเพื่อต้องการลดความน่าเชื่อถือของผู้ที่ประกาศตัวที่จะลงสมัครรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งขณะนี้มีเพียง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ที่ประกาศตัวเท่านั้น ยังไม่มีผู้สมัครรายอื่น จึงอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาในเรื่องนี้ด้วยควรจะมีการวางกฎเกณฑ์หรือระเบียบขึ้นมาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ แม้ว่ากฎหมายเขียนไว้ชัดว่าผู้ที่ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่ผู้กระทำผิดก็ตาม แต่การนำเสนอข่าว หรือออกสื่อบ่อยครั้งนั้นเป็นการจูงใจประชาชน จนทำให้เกิดความรู้สึกมีผลต่อตัวผู้สมัคร ทั้งนี้ ยืนยันว่า กทม.และผู้บริหาร กทม.ทุกคนยังยินดีที่ให้มีการตรวจสอบหรือร้องเรียนในทุกกรณีแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง
โฆษก กทม.กล่าวอีกว่า ในส่วนของการอภิปรายไม่วางใจของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีการนำประเด็นการทำงานของ กทม.มาอภิปรายและตั้งเป็นกระทู้สดด้วยนั้น เห็นว่า ไม่เป็นธรรมเพราะ กทม.ในฐานะเจ้าของเรื่องไม่สามารถอธิบายข้อเท็จจริงในสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งการอภิปรายการทำงานของผู้ว่าฯ กทม.เป็นหน้าที่สภา กทม.เท่านั้น ดังนั้น จึงอยากให้สู้กันแบบยุติธรรม ทุกคนควรทำหน้าที่ของตนเอง
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่อยู่ในเวลา 60 วันก่อนหมดวาระ ตนตั้งข้อสังเกตว่า จะมีพฤติกรรมและพฤติการณ์ของนักการเมืองบางกลุ่ม ไปยื่นร้องเรียนกับหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบเพื่อให้มีการนำเสนอข่าวไปแล้ว ก็จะเป็นประเด็นที่สื่อมวลชนติดตามก็จะทำให้ผู้ที่กระทำการณ์ดังกล่าวเพื่อต้องการลดความน่าเชื่อถือของผู้ที่ประกาศตัวที่จะลงสมัครรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งขณะนี้มีเพียง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ที่ประกาศตัวเท่านั้น ยังไม่มีผู้สมัครรายอื่น จึงอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาในเรื่องนี้ด้วยควรจะมีการวางกฎเกณฑ์หรือระเบียบขึ้นมาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ แม้ว่ากฎหมายเขียนไว้ชัดว่าผู้ที่ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่ผู้กระทำผิดก็ตาม แต่การนำเสนอข่าว หรือออกสื่อบ่อยครั้งนั้นเป็นการจูงใจประชาชน จนทำให้เกิดความรู้สึกมีผลต่อตัวผู้สมัคร ทั้งนี้ ยืนยันว่า กทม.และผู้บริหาร กทม.ทุกคนยังยินดีที่ให้มีการตรวจสอบหรือร้องเรียนในทุกกรณีแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง
โฆษก กทม.กล่าวอีกว่า ในส่วนของการอภิปรายไม่วางใจของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีการนำประเด็นการทำงานของ กทม.มาอภิปรายและตั้งเป็นกระทู้สดด้วยนั้น เห็นว่า ไม่เป็นธรรมเพราะ กทม.ในฐานะเจ้าของเรื่องไม่สามารถอธิบายข้อเท็จจริงในสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งการอภิปรายการทำงานของผู้ว่าฯ กทม.เป็นหน้าที่สภา กทม.เท่านั้น ดังนั้น จึงอยากให้สู้กันแบบยุติธรรม ทุกคนควรทำหน้าที่ของตนเอง