xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปิดบวก 7.15 จุด ยืนเหนือ 1,500 จุด นิวไฮรอบ 18 ปี เม็ดเงินไหลเข้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 ก.พ.) ดัชนีปิดที่ระดับ  1,506.37 จุด เพิ่มขึ้น 7.15 จุด หรือ 0.48% มูลค่าการซื้อขาย 54,076.90 ล้านบาท ภาพรวมทำสถิติใหม่ในรอบ 18 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของหลายประเทศออกมาดี ทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้ามาในตลาดหุ้น แต่มีการแกว่งตัวในระหว่างวันหลังตลาดปรับตัวขึ้นมาสูง ยังมีความกังวลการแทรกแซงค่าเงินบาทหลังจากที่แข็งค่ารวดเร็ว

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
PTT    มูลค่าการซื้อขาย 4,163.87 ล้านบาท ปิดที่  362.00 บาท  เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
BJC    มูลค่าการซื้อขาย 3,323.72 ล้านบาท ปิดที่   88.00 บาท  เพิ่มขึ้น 5.00 บาท          
IRPC   มูลค่าการซื้อขาย 2,045.78 ล้านบาท ปิดที่    4.56 บาท  เพิ่มขึ้น 0.06 บาท
PTTEP  มูลค่าการซื้อกาย 2,027.18 ล้านบาท ปิดที่  171.00 บาท  เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
SCB    มูลค่าการซื้อขาย 1,959.33 ล้านบาท ปิดที่  180.50 บาท   ลดลง 0.50 บาท

    นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องแต่มีการแกว่งตัวในระหว่างวัน โดยวันนี้ ตลาดสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้มาจากแรงหนุนของตัวเลขเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเรื่องของ PMI ที่ในหลายๆ ประเทศที่ออกมาดี เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และจีน แต่ดัชนีก็มีการแกว่งตัวในระหว่างวัน จากการที่ตลาดได้ปรับตัวขึ้นมาสูงแล้ว และค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีการเข้าแทรกแซงค่าเงินบาท

    ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (5 ก.พ.) ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่อ่อนตัวลง หลังจากที่ขึ้นแรงติดกัน 2 วันซ้อน พร้อมให้แนวต้าน 1,510-1,513 จุด แนวรับ 1,495-1,500 จุด

เตือนระวังหุ้นร้อน 70 บริษัท ค่าพี/อี สูง 40 เท่า
     นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ขณะนี้มีหุ้นประมาณ 70 บริษัทที่มีกำไรต่อหุ้น หรือพีอี เรโช สูงกว่า 40 เท่า ซึ่งปรับขึ้นอย่างก้าวกระโดด จึงต้องพิจารณาว่าราคาที่ปรับขึ้นไปนั้นมีปัจจัยพื้นฐานรองรับหรือไม่ ทั้งนี้ นักลงทุนจะต้องดูปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนประกอบการลงทุนด้วย เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดว่าบริษัทจะเบียน หรือ บจ. จะมีกำไรเติบโตร้อยละ 12-14 จากปีก่อน และหากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 12-14 ก็ถือว่าเป็นไปตามปัจจัยพื้นฐาน
         
กำลังโหลดความคิดเห็น