xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยเดินหน้าทดสอบ 1,500 จุด โบรกฯ ชี้ค่าพีอี 15 เท่าดัชนียังยืนได้ เตือน ก.พ. เสี่ยงสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นไทยเดินหน้าทดสอบ 1,500 จุด โบรกฯ ประเมินค่าพีอีเรโชอยู่ที่ระดับ 15 เท่า น่าจะทำให้ดัชนียืนระดับนี้ได้ พร้อมเตือนให้ระวังแรงขายเทกำไรในเดือน ก.พ.นี้ หลังดัชนีทะยานตัวต่อเนื่อง แต่แนวโน้มครึ่งปีแรกคาดได้เห็นหุ้นไทยแตะ 1,550 จุด

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) มองภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (31 ธ.ค.) คาดว่า ดัชนียังมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง เพราะน่าจะมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาต่อเนื่องทั้งในตลาดหุ้นไทย และภูมิภาค ซึ่งประเมินแนวรับที่ 1,480 จุด และแนวต้านที่ 1,495-1,500 จุด โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีหุ้นไทยพยายามขึ้นไปทดสอบระดับ 1,500 จุด หลังได้รับปัจจัยบวกจากแรงซื้อที่เก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ของไทยที่ออกมาดี

นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสเปิดบวก แต่อาจมีแรงขายทำไรออกมาได้ เนื่องยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนตลาด ประกอบกับเมื่อวานนี้ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 2 โดยมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าวันนี้จะยังมีแรงขายจากต่างชาติต่ออีก

ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้าวันนี้มีส่วนใหญ่เปิดมาเป็นลบ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนเข้ามาหนุนตลาดในช่วงนี้ ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา พร้อมให้แนวต้าน 1,495-1,500 จุด แนวรับ 1,475-1,480 จุด

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล. บัวหลวง จำกัด เชื่อว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้จะปรับตัวขึ้นจนไปแตะระดับ 1,550 จุด เนื่องจากมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังเติบโต ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนอยู่ในระดับที่ดี และคำนวณพีอีเรโชที่ระดับ 15 เท่าน่าจะทำให้ดัชนียืนระดับดังกล่าวได้

สำหรับภาพรวมระยะกลางดัชนีหุ้นไทยช่วง 6 เดือน มองว่า อยู่ในทิศทางที่ดี และเป็นขาขึ้น เนื่องจากเงินยังคงไหลเข้า ภาพรวมเศรษฐกิจดี แต่ระยะสั้นระหว่างทางอาจจะมีความผันผวนจากแรงขายทำกำไรอยู่บ้าง โดยเฉพาะเดือน ก.พ.นี้ ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร แต่มองว่าแรงขายทำกำไรที่เกิดขึ้นจะไม่ทำให้ดัชนีขึ้นลงแรงถึง 10-20% แต่อาจจะทำให้ดัชนีปรับตัวลงประมาณ 5-7% หรือไม่เกิน 70 จุด

“ตราบใดที่ตลาดหุ้นโลกยังไม่ปรับตัวขึ้น แรงซื้อก็น่าจะยังอยู่ในตลาดหุ้นแถบเอเชีย และไทยก็เป็นเป้าหมายที่น่าสนใจ ทั้งนี้ หากพิจารณาตัวเลขการซื้อสะสมของนักลงทุนต่างชาติในระยะเวลา 5 ปีพบว่า ยังอยู่ระดับหลักหมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับอดีตจะอยู่ 3 แสนล้านบาท ดังนั้น จึงมองว่าเงินน่าจะยังไหลเข้ามาอีก อย่างไรก็ตาม เงินที่จะหวังเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทย และเป็นเงินร้อนน่าจะเริ่มเข้ามาช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา”

ส่วนการลงทุนปีนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจลงทุน ได้แก่ กลุ่มธนาคาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง ขณะที่หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีก็เริ่มมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น เพราะทุกครั้งก่อนเทศกาลตรุษจีน ผู้ประกอบการในจีนส่วนใหญ่จะมีการสั่งออเดอร์ล่วงหน้าไว้กักตุน ทำให้กลุ่มดังกล่าวน่าจะได้รับผลดี รวมทั้งการลงทุนในต่างประเทศก็ยังมีความน่าสนใจโดยเฉพาะในจีน ซึ่งสามารถลงทุนผ่านกองทุนอีทีเอฟได้
กำลังโหลดความคิดเห็น