วี จี ไอ โกลบอลฯ แจ้งผลงานไตรมาส 3 กำไรพุ่งกว่า 306% เหตุจำนวนผู้โดยสานเพิ่มสูง แถมพื้นที่เช่าโฆษณางบเติบโตสูงขึ้นมาตลอดทั้งปี อีกทั้งรายได้ค่าเช่าพื้นที่โต
นางศุภรานันท์ ตันวิรัช ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการเงิน บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) แถลงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 (ต.ค.-ธ.ค. 2555) ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 775 ล้านบาท เติบโต 52% จากไตรมาส 3 ปีก่อนที่มีรายได้ 511 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 9 เดือน 2,167 ล้านบาท สูงขึ้น 42% เมื่อเทียบกับรายได้งวด 9 เดือนของปีก่อน 1,526 ล้านบาท
โดยไตรมาส 3 ปีก่อนยอดขายของบริษัทลดลงเล็กน้อยจากสภาวะน้ำท่วม ส่วนปัจจัยบวกในไตรมาส 3 ปีนี้มาจากการเพิ่มขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอส 12 ขบวนในสายสีลมเมื่อปีที่แล้ว รองรับปริมาณผู้โดยสารบนสถานีบีทีเอสในปีนี้ที่เติบโตสูงถึง 15% ส่งผลให้งบโฆษณาของทุกสื่อบนสถานีบีทีเอสเติบโตสูงขึ้นมาโดยตลอดทั้งปี โดยในยอดขายสื่อโฆษณาบนขบวนรถไฟฟ้าเติบโต 32% ยอดขายสื่อบนสถานีสูงขึ้น 20% และรายได้พื้นที่เช่าร้านค้าบนสถานีเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีก่อน อีกทั้งผู้ลงโฆษณายังคงให้ความสนใจเพิ่มงบประมาณโฆษณาใน In-store media มากขึ้น ทำให้อัตราการใช้พื้นที่สื่อโฆษณาในโซนชั้นวางสรรพสินค้า (Sales floor) สื่อ In-store LCD และสื่อ In-store Radio ในโมเดิร์นเทรดเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ยอดขายโฆษณาทุกสื่อในโมเดิร์นเทรดของบริษัทเพิ่มขึ้นมากถึง 83% จากไตรมาส 3 ปีก่อน ส่วนธุรกิจสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน จอ LED ขนาดใหญ่ และ CU Bus Media มีการเติบโตสูงถึง 131% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีก่อน
สำหรับอุตสาหกรรมโฆษณา ไตรมาส 4 ปี 2555 (ต.ค.-ธ.ค. 2555 ซึ่งตรงกับไตรมาส 3 ของรอบปีบัญชีของวีจีไอ) การใช้งบโฆษณาโดยรวมทุกสื่อกลับมาเติบโตสูงอีกครั้ง เนื่องจากปีก่อนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยสื่อในเครือข่ายสาขาห้างค้าปลีกหรืออินสโตร์มีเดียเติบโตสูงถึง 41.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีก่อน ส่วนสื่อในระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่เติบโต 17.5%
นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาโดยรวมปี 2556 สามารถเติบโตได้ประมาณ 10% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังคงเติบโตประมาณ 4.5-5% การฟื้นตัวของธุรกิจต่างๆ จากสภาวะน้ำท่วมปีก่อน รวมถึงมาตรการภาษีและการใช้จ่ายจากภาครัฐในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ที่สนับสนุนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจมหภาค การขยายโครงข่าย 3G และช่องทีวีดาวเทียม HDTV และช่องทางการสื่อสารแนวใหม่ๆ ก่อให้เกิดเทรนด์การใช้จ่ายงบประมาณโฆษณาเพิ่มขึ้นในสื่อนอกบ้านและสื่อดิจิตอลหรือสื่อรุ่นใหม่ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ พร้อมยืนยันว่าธุรกิจหลักของบริษัทยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี บริษัทมีความมั่นใจที่จะรักษาระดับการเติบโตของยอดขายและผลกำไรสุทธิในอัตราสูงต่อไปในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ย้ำบริษัทมีโอกาสขยายการลงทุนในตลาดประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม AEC และยังคงอยู่ระหว่างแสวงหาแนวทางทำธุรกิจใหม่ๆ อีกมากมาย ที่มี synergy กับธุรกิจหลักและสามารถขยายผลจากขีดความสามารถองค์กรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมั่นว่าโมเดลธุรกิจของบริษัทจะสามารถสร้างผลตอบแทนในอัตราที่สูงให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างยั่งยืน
***********
