สหภาพฯ “ทีโอที” ส่งหนังสือถึงบอร์ดขอปรับเงินเดือนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ หลังผลประกอบการปี 55 โตกว่าปีก่อนหลายเท่า คาดไม่ต่ำกว่า 30% ลั่นเพื่อเตรียมสู้ศึกอีก 2-3 ปีข้างหน้า
นายอุดม พัวสกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บมจ.ทีโอที กล่าวว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอทียื่นหนังสือถึงบอร์ดทีโอทีขอให้พิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนของพนักงานตามความเหมาะสม เนื่องจากผลประกอบการปี 2555 เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และรายจ่ายก็ปรับลดลง โดยตนรับเรื่องดังกล่าวไว้เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดวันที่ 28 ม.ค.นี้ ส่วนจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ และผลวิเคราะห์ฐานะการเงินของทีโอที รวมถึงภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจด้วย
“สหภาพฯ ทีโอทีไม่ได้มากดดันบอร์ดว่าต้องปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้น 7.5% แต่มาขอให้พิจารณาปรับเงินเดือนเพื่อสร้างขวัญกำลังใจทำงานให้แก่พนักงาน ซึ่งเชื่อว่ากรรมการทุกคนเข้าใจ เพราะการปรับขึ้นเงินเดือนเพื่อกระตุ้นให้พนักงานในองค์กรทำงาน โดยอีก 1-2 ปีข้างหน้าทีโอทีต้องเผชิญความเสี่ยง โดยเฉพาะการสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน”
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ผลประกอบการทีโอทีปี 2555 มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2554 เนื่องจากรายได้จากสัญญาสัมปทานปรับเพิ่มขึ้นเป็น 30% อีกทั้งประชาชนก็หันมาใช้บริการทีโอทีเพิ่มขึ้น โดยปี 2555 มีรายได้ราว 78,054 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2554 ราว 3,200 ล้านบาท กำไรสุทธิ 9,563 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 621 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายประจำปีลดลงจากปี 2554 ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายบอร์ดทีโอทีที่รณรงค์ให้พนักงานช่วยกันใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด และมุ่งเน้นเพิ่มรายได้
นายอุดมยอมรับว่า ทีโอทีมีหลายปัจจัยที่จะกระทบต่อสถานะทางการเงิน และหลายฝ่ายก็มองว่าน่ากลัว แต่บอร์ดพยายามกระตุ้นให้พนักงานทีโอทีกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้น มีแผนการทำงานประจำปีที่ชัดเจน มีระบบทำงานชัดเจน เชื่อว่าพนักงานทีโอทีทุกคนไม่ยอมให้ทีโอทีหายไป ไม่ยอมให้เป็นภาระของภาครัฐ ดังนั้นทุกคนก็ต้องสู้เพื่อให้ทีโอทีอยู่รอด
โดยปัญหาขณะนี้คือ ปัญหาค่าเชื่อมโยงโครงข่ายโทรคมนาคม ได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปหารือกับ กสทช. และให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง เกี่ยวกับคำสั่งค่าปรับทางปกครองที่ กสทช.มีหนังสือมา ทั้งส่วนของค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (อินเตอร์คอนเนกชันชาร์จ หรือไอซี) และค่าเชื่อมต่อเลขหมาย (แอ็กเซสชาร์จ หรือเอซี) เนื่องจากมีประเด็นกฎหมายที่ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน และไม่จำเป็นต้องตัดสินใจอย่างเร่งด่วน