xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรีฯ-ซีไอเอ็มบีกำไรพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรุงศรี กรุ๊ป กวาดกำไรปี 55 จำนวน 1.47 หมื่นล้าน เพิ่ม 57.7% จากสินเชื่อที่เติบโตถึง 17.2% คาดปีนี้ยังขยายต่อเนื่อง ขณะที่ซีไอเอ็มบีไทย ประกาศกำไร 1.58 พันล้าน เพิ่ม 20%

กรุงศรี กรุ๊ป (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) แจ้งผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งสำหรับปี 2555 ด้วยกำไรสุทธิ 1.47 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.7% จากปี 2554 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง และรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

โดยสินเชื่อที่มีคุณภาพขยายตัวเพิ่มขึ้น 17.2% คิดเป็น 11.87 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 หรือเพิ่มขึ้น 6.2% คิดเป็น 4.73 หมื่นล้านบาท จากสิ้นเดือนกันยายน 2555 โดยสินเชื่อรายย่อยของธนาคารยังคงเป็นปัจจัยสำคัญผลักดันการเติบโต ทั้งนี้ ยอดสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น 24.2% ในปี 2555 ขณะที่สินเชื่อ SME และสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวแข็งแกร่งที่ 12.6% และ 3.7% ตามลำดับ

ขณะที่เงินรับฝากเพิ่มขึ้น 22.6% คิดเป็นมูลค่าถึง 12.66 หมื่นล้านบาท จากปี 2554 ทั้งนี้ สัดส่วนของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์ และจ่ายคืนเมื่อทวงถามต่อสัดส่วนเงินรับฝากทั้งหมดได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53.8% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 เทียบกับ 42.4% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554

และสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 2.13 หมื่นล้านบาท ลดลง 27.9% จาก 2.95 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพปัจจุบันของกรุงศรี กรุ๊ป อยู่ที่เพียง 2.4% ของสินเชื่อรวมซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2536

นอกจากนี้ กรุงศรี กรุ๊ป ยังสามารถรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิไว้ในระดับสูงที่ 4.33% แม้ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบอุทกภัยที่สิ้นสุดในไตรมาส 1/2555

“เราคาดว่าแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อโดยรวมในปี 2556 จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากนโยบายการเงินที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โครงการลงทุนของภาครัฐ และการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทั้งนี้ วัฏจักรการลงทุนขาขึ้นและความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยกรุงศรีตั้งเป้าการขยายตัวของสินเชื่อไว้ที่ระดับสูงกว่า 12% สำหรับปี 2556” นางเจนิส แร แวน เอ็กเคอเรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรุงศรี กรุ๊ปกล่าว

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย มีสินเชื่อรวม 83.0 หมื่นล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.07 ล้านล้านบาท ธนาคารมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่ระดับ 16.9% โดยเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1) 10.9%

CIMBT กำไรโต 20%

ด้านนายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของธนาคาร และบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2555 มีกำไรสุทธิ จำนวน 1,580.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 264.6 ล้านบาท หรือ 20.1% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2554 หลักจากการเพิ่มขึ้นในรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิ และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 48.4% และ 12.4 % ตามลำดับ

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีการบริหารจัดการที่ดี ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงอยู่ที่ 8.7% และค่าใช้จ่ายหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 29.0% เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 และ 2554 รายได้จากการดำเนินงานปี 2555 จำนวน 8,328.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 จำนวน 956.1 ล้านบาท หรือ 13.0% เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิ และรายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้น ในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธินั้นเพิ่มขึ้น 573.5 ล้านบาท หรือ 12.4% สะท้อนจากการขยายสินเชื่อ รายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 282.1 ล้านบาท หรือ 48.4% ส่วนใหญ่มาจากค่าธรรมเนียมจากการให้บริการที่ปรึกษา และค่าธรรมเนียมการจัดการ

อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin - NIM) ปรับลดลงจากปี 2554 จาก 3.46% เป็น 3.21% ในปี 2555 เนื่องจากการนำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูที่เพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2555 รวมถึงอัตราดอกเบี้ยของเงินฝาก และตั๋วแลกเงินที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเป็นผลจากภาวะแข่งขันด้านเงินฝากอย่างรุนแรงในตลาด

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชีของกลุ่มธนาคาร อยู่ที่ 1.38 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.4% เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 ส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของสินเชื่อรายย่อย เงินฝาก และตั๋วแลกเงิน จำนวน 1.46 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.8% จากสิ้นปี 2554 ซึ่งมีจำนวน 1.34 แสนล้านบาท จากการขยายตัวของสินเชื่อ และเงินฝากข้างต้น ทำให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินของกลุ่มธนาคาร อยู่ที่ 95.0%

สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2555 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ลดลงอยู่ที่ 4.0 พันล้านบาท หรือปรับลดลงมาอยู่ที่ 2.8% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2554 อยู่ที่ 3.4% ในการลดลงของสินเชื่อด้อยคุณภาพ มีสาเหตุจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในไตรมาส 4/2555 ประกอบกับธนาคารมีมาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และการแก้ปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงแนวทางในการเรียกเก็บหนี้จากสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีอยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น