ศูนย์วิจัยกสิกร เผยธุรกิจเด่นปี 56 รถยนต์-สื่อสาร-ก่อสร้าง-ขนส่ง ส่วนธุรกิจที่อาจต้องเผชิญกับความยากลำบากได้แก่ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และธุรกิจเครื่องหนัง
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นในปี 2556 ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ ที่คาดว่าในปี 2556 การผลิตรถยนต์ในประเทศไทยจะทำสถิติใหม่สูงถึงประมาณ 2.5-2.6 ล้านคัน
ขณะที่ธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสาร ประกอบด้วย ธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจโทรทัศน์ ทั้งโทรทัศน์ดาวเทียม เคเบิลทีวี และทีวีดิจิตอล คาดว่าจะเป็นหนึ่งในธุรกิจดาวเด่นที่จะมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนเฉพาะที่สำคัญ อย่างการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบในการดำเนินกิจการโทรทัศน์ ทั้งเคเบิลทีวี และฟรีทีวี รวมถึงความชัดเจนจากการประมูลเครือข่าย 3G และทีวีดิจิตอล
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจก่อสร้าง คาดว่าจะเป็นอีกธุรกิจที่เติบโตอย่างโดดเด่น จากอานิสงส์โครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการที่ภาคเอกชน เช่น ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และโรงงานอุตสาหกรรม ต่างมีแผนขยายการลงทุนต่างจังหวัดคึกคัก
ขณะที่ธุรกิจขนส่งในปี 2556 จะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออก การก่อสร้าง การขยายตัวของภาคธุรกิจที่ออกไปสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น และการเติบโตของกิจกรรมการค้าชายแดน ส่วนธุรกิจยางพาราจะได้รับแรงหนุนจากทิศทางราคายางพาราเริ่มปรับตัวสูงขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งแรงบวกสำคัญประการหนึ่ง ได้แก่ แผนการตลาดของภาครัฐที่จูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทยมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนการเป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเชีย
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของภาคธุรกิจส่วนใหญ่โดยเฉลี่ยอาจยังขยายตัวในระดับปานกลาง โดยสถานการณ์ธุรกิจภายในประเทศยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องต้นทุนการดำเนินธุรกิจ ทั้งจากการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ การปรับลดการอุดหนุนราคาพลังงานลง และการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ซึ่งการปรับขึ้นของต้นทุนจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องมายังการปรับขึ้นของราคาสินค้าในปี 2556 ขณะเดียวกัน มีผลต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก ซึ่งจะสร้างความท้าทายให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่จำเป็นต้องปรับตัวให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และสามารถสร้างผลกำไรให้เติบโตได้ต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจที่คาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตในระดับปานกลาง แม้จะไม่โดดเด่น แต่ก็มีปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจที่มีทิศทางบวก เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แม้ตลาดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะทรงตัว แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดกลับมีความคึกคักมาก หรืออุตสาหกรรมอาหาร แม้โดยรวมจะยังมีความเสี่ยงจากเรื่องต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ตลาดคู่ค้าสำคัญอย่างยุโรปยังอ่อนแอ แต่ตลาดส่งออกอาหารที่สำคัญอื่นๆ เช่น อาเซียน ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ อิรัก และซาอุดีอาระเบีย มีแนวโน้มความต้องการนำเข้าอาหารเพิ่มขึ้นจากไทย สำหรับธุรกิจที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตปานกลางอื่นๆ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม และธุรกิจพลังงาน
ขณะที่บางภาคธุรกิจอาจต้องเผชิญกับความยากลำบากในการที่จะฝ่าฟันให้ผ่านพ้นปัจจัยลบที่รุมล้อม ซึ่งบางปัจจัยก็เป็นปัจจัยเฉพาะของธุรกิจนั้น และอาจส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง เช่น ปัจจัยด้านการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน ภาวะเศรษฐกิจและมาตรการการค้าของประเทศคู่ค้า ตลอดจนสภาพการแข่งขัน โดยตัวอย่างธุรกิจที่เผชิญความท้าทายในปี 2556 เช่น ธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และธุรกิจเครื่องหนัง
