xs
xsm
sm
md
lg

ทุ่มงบลงทุน 5 แสนล้านปี 56 “โต้ง” เป่านกหวีดลุย “เมกะโปรเจกต์” มั่นใจ ศก.โต 5%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติรัตน์ ณ ระนอง
“ขุนคลัง” เปิดแผนลงทุนปี 56 ทุ่มงบก้อนใหญ่ 5 แสนล้าน เป่านกหวีดลุย “เมกะโปรเจกต์” มั่นใจ “จีดีพี” โตได้ 5% แน่นอน เตรียมเร่งผลักดันส่งออก และการเบิกจ่ายงบประมาณ พร้อมงัดแผนรับมือ “บาทแข็ง” ยันระดับหนี้สาธารณะอยู่ในระดับไม่เกิน 50% ของจีดีพี และรัฐบาลจะรักษาวินัยการคลังอย่างเคร่งครัด

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2555 โดยระบุว่า ตนเองได้รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยของไตรมาส 3 ของปี 2555 ต่อที่ประชุม ครม. โดยชี้แจงว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 3 อยู่ที่ 3% เทียบกับไตรมาส 1 ที่ขยายตัว 0.4% และไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 4.4%

ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศ โดยเฉพาะการใช้จ่ายภาคครัวเรือน และภาครัฐ การลงทุนด้านการผลิต ขยายตัวด้านการผลิตนอกภาคอุตสาหกรรม ทั้งภาคเกษตร ก่อสร้าง ค้าส่งค้าปลีก โรงแรม และภัตตาคารที่ขยายตัวสูง แต่การส่งออกที่หดตัว และการผลิตในภาคอุตสาหกรรมยังเป็นปัจจัยกดดัน ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยช่วง 9 เดือนแรก ขยายตัว 2.6% และเมื่อปรับผลของฤดูกาล เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ของปี 2555 ขยายตัว 1.2% จากไตรมาส 2

ส่วนแนวโน้มปี 2556 นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ยังมั่นใจเศรษฐกิจไทยขยายตัวที่ 5% โดยส่งออกขยายตัว 9% และยังมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ อุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวในเกณฑ์ดี แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากข้อจำกัดของการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานสูง และสภาพคล่องส่วนเกินในระบบเศรษฐกิจ และการเงินโลก รวมถึงราคาน้ำมันที่ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ เป็นผลจากการเก็งกำไรในช่วงเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และสภาพคล่องส่วนเกินในระบบเศรษฐกิจการเงินโลกที่อยู่สูง

สำหรับนโยบายบริหารเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี 2555 และปี 2556 จะดำเนินมาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เต็มศักยภาพ ควบคู่การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพการขยายตัวเศรษฐกิจ และป้องกันความเสี่ยงด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ โดยเร่งรัดการส่งออก โดยเฉพาะตลาดส่งออกที่มีมูลค่าการส่งออกในปีนี้ที่ลดลงมาก เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ และการดำเนินการตามโครงการลงทุนภาครัฐที่สำคัญ โดยเฉพาะโครงการลงทุนภายใต้แผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และเร่งรัดแผนการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจใหม่เพื่อเพิ่มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ จะติดตามเตรียมการเพื่อรองรับแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาท โดยจะเพิ่มผลิตภาพการผลิตให้ภาคการผลิต และการส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มเอสเอ็มอี ส่งเสริมให้นักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศ ส่งเสริมการลงทุนในเครื่องจักรของภาคการผลิต และเร่งรัดการนำเข้าของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ดำเนินนโยบายการเงินที่สอดคล้องกับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะแนวโน้มการแข็งค่าเงินบาท

เศรษฐกิจในประเทศที่ยังอยู่ช่วงการฟื้นตัว แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในกรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน รวมถึงการปรับโครงสร้างราคาพลังงานตามแผน เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และปรับกฎระเบียบด้านการค้า การลงทุน เพื่อให้สามารถได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีการค้า การเคลื่อนย้ายเงินทุน และแรงงาน ภายใต้กรอบข้อตกลงการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ในปี 2556 จะมีการใช้เงินงบประมาณในโครงการบริหารจัดการน้ำราว 6 หมื่นล้านบาท และใช้เงินในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอีกประมาณ 1 แสนล้านบาท จะทำให้งบลงทุนของปีงบประมาณ 2556 อีก 3.3 แสนล้านบาท ทำให้งบลงทุนทั้งหมดในปี 2556 อยู่ที่ 5 แสนล้านบาท และในช่วง 4-5 ปีข้างหน้าไทยจะมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม รมว.คลัง ยืนยันว่า ระดับหนี้สาธารณะจะอยู่ระดับไม่เกิน 50% ของจีดีพี และรัฐบาลจะรักษาวินัยการคลังอย่างเคร่งครัด
กำลังโหลดความคิดเห็น