ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนนักลงทุนรายย่อย ต้องระวังเงินทุนไหลเข้า-ออกเร็ว กดดันดัชนีผันผวน
นายวิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการสายงานพัฒนา และวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2556 ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติ เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เริ่มมีทิศทางดีขึ้นตามการแก้ไขปัญหาทางการคลัง และธนาคารกลางหลายประเทศมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ
“อยากให้นักลงทุนระวังการไหลเข้าออกเร็วของเม็ดเงินต่างชาติ เพราะจะมีผลให้ดัชนีและค่าเงินมีความผันผวนสูง”
รองผู้จัดการสายงานพัฒนา และวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่าแม้ดัชนีของไทยจะปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้ราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี) สิ้นเดือน พ.ย. อยู่ที่ 14.74 เท่า
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจในสายตานักลงทุนอยู่ เพราะพี/อีอยู่ระดับเดียวกับมาเลเซีย และสิงคโปร์ และน้อยกว่าไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ที่ 15-17 เท่า
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นปี 2555 ให้ผลตอบแทนสูงถึง 34.33% และหากซื้อหุ้นตั้งแต่ปี 2552 และถือจนถึงปัจจุบัน ผลตอบแทนจะสูงถึง 206.11%
นายวิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการสายงานพัฒนา และวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2556 ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติ เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เริ่มมีทิศทางดีขึ้นตามการแก้ไขปัญหาทางการคลัง และธนาคารกลางหลายประเทศมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ
“อยากให้นักลงทุนระวังการไหลเข้าออกเร็วของเม็ดเงินต่างชาติ เพราะจะมีผลให้ดัชนีและค่าเงินมีความผันผวนสูง”
รองผู้จัดการสายงานพัฒนา และวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่าแม้ดัชนีของไทยจะปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้ราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี) สิ้นเดือน พ.ย. อยู่ที่ 14.74 เท่า
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจในสายตานักลงทุนอยู่ เพราะพี/อีอยู่ระดับเดียวกับมาเลเซีย และสิงคโปร์ และน้อยกว่าไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ที่ 15-17 เท่า
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นปี 2555 ให้ผลตอบแทนสูงถึง 34.33% และหากซื้อหุ้นตั้งแต่ปี 2552 และถือจนถึงปัจจุบัน ผลตอบแทนจะสูงถึง 206.11%