xs
xsm
sm
md
lg

“โต้ง” ยันใช้สิทธิ “รถคันแรก” แตะ 6 แสนคันไม่สะเทือนกระเป๋ารัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติรัตน์ ณ ระนอง
“กิตติรัตน์” ไม่หวั่นยอดใช้สิทธิ “รถคันแรก” บานปลายแตะ 6 แสนคัน ยันไม่สะเทือนกระเป๋าเงินรัฐบาล พร้อมมอบ “สรรพสามิต” ตีความโตโยต้าวีออสรุ่นใหม่ เข้าร่วมโครงการได้หรือไม่

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดการขอใช้สิทธิในโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก ไม่เกิน 1 แสนบาท เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมอย่างมาก โดยปัจจุบัน มียอดใช้สิทธิแล้วประมาณ 6 แสนคัน คิดเป็นงบประมาณที่ต้องใช้ในการดำเนินการจำนวนกว่า 5 หมื่นล้านบาทนั้น

โดยส่วนตัวมั่นใจว่า ปัจจัยดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของประเทศอย่างแน่นอน ส่วนหนึ่งเพราะการคืนเงินในโครงการดังกล่าวนั้นเป็นการใช้เงินภาษีจากที่เก็บจากผู้ซื้อรถยนต์ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว รัฐบาลไม่ต้องหางบประมาณในส่วนอื่นมาใช้ดำเนินการโครงการนี้แต่อย่างใด

“ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เดือดร้อนแต่อย่างใดกับโครงการรถยนต์คันแรก แม้ว่าปัจจุบัน จะมีประชาชนมาขอใช้สิทธิในโครงการเป็นจำนวนมากก็ตาม แต่อยากให้มองในทางกลับกันว่า การมาขอใช้สิทธิที่เพิ่มมากขึ้นนั้นรัฐบาลจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะช่วยสนับสนุนรายได้ในส่วนของภาษีรถยนต์ให้เพิ่มมากขึ้น”

ซึ่งการเพิ่มขึ้นของรายได้ในส่วนนี้เอง จะทำให้รัฐอาจไม่ต้องควักเงินงบประมาณส่วนอื่นมาใช้ดำเนินการ ส่วนการขยายระยะเวลาในส่วนของการส่งมอบรถยนต์นั้น ก็เป็นผลมาจากกระบวนการผลิตที่ไม่ทันต่อความต้องการของประชาชนเท่านั้น เชื่อว่าไม่ได้เป็นผลทำให้มียอดการขอใช้สิทธิเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

ส่วนของกรณีบริษัท โตโยต้า ประเทศไทย จำกัด ที่เปิดให้มีการจองรถยนต์วีออสรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งยังไม่ได้มีการผลิต แต่ได้รับสิทธิให้เข้าโครงการรถยนต์คันแรกนั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมสรรพสามิตที่ต้องออกมาตอบว่า รถยนต์รุ่นดังกล่าวเข้าหลักเกณฑ์ และได้รับสิทธิในโครงการรถยนต์คันแรกได้หรือไม่ อย่างไร

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า รถยนต์ที่จะเข้าเงื่อนไขโครงการรถคันแรก จะต้องเป็นรถยนต์ที่ผลิต และเสียภาษีสรรพสามิตแล้วถึงจะสามารถเปิดจอง และจำหน่ายได้ ซึ่งบริษัทดังกล่าวหากดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ก็ถือว่าเข้าเงื่อนไข โดยยังมีเวลาเหลือก่อนจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น