บมจ.ที เอส ฟลาวมิลล์ (TMILL) ปิดเทรดวันแรกที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.40 บาท หรือ 77.42%จากราคาขาย IPO ที่ 3.10 บาท/หน่วย มูลค่าซื้อขาย 1,654.78 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 6 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 7.20 บาท และราคาลงต่ำสุด 5.15 บาท นอกจากนี้ ยังมีรายการบิ๊กล็อตหุ้น TMILL 1 รายการ จำนวน 3,165,400 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 9.81 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 3.10 บาท/หุ้น
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที เอส ฟลาวมิลล์ (TMILL) กล่าวว่า ราคาหุ้นเปิดเทรดวันแรกเหนือจองเกือบ 100% เป็นการปรับขึ้นดีเกินคาด ที่นักลงทุนตอบรับดีส่วนหนึ่งเพราะแนวโน้มอุตสาหกรรมโตต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทก็มีอัตราการเติบโตของผลประกอบการที่ดี รวมทั้งนักลงทุนเชื่อมั่นใน บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) ซึ่งเป็นบริษัทแม่อยู่ในตลาดมานาน
สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำเงิน 140 ล้านบาท ไปชำระหนี้เงินกู้ และอีก 123 ล้านบาท เป็นเงินทุนหมุนเวียน และขยายกำลังการผลิตซื้อเครื่องจักร เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 500 ตันข้าวสาลีต่อวัน จากปัจจุบันที่ 250 ตันข้าวสาลีต่อวัน มูลค่าการลงทุน 500-600 ล้านบาทที่จะใช้ในปี 56 อย่างไรก็ตาม จะต้องขอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติโดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในต้นปี 56
โดยผลประกอบการปี 55 มั่นใจรายได้รวมเติบโต 20% จากปี 54 ที่ 800 ล้านบาท โดยครึ่งแรกมีรายได้ 560 ล้านบาท แนวโน้มไตรมาส 4 คาดว่าทั้งรายได้ และกำไรจะสูงกว่าทั้ง qoq และ yoy เพราะเป็นฤดุกาลใช้ปริมาณแป้งสาลีมากที่สุดการผลิตก็เพิ่มขึ้น ส่วนในปี 56 คาดว่ารายได้น่าจะโตใกล้เคียงกับปีนี้
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที เอส ฟลาวมิลล์ (TMILL) กล่าวว่า ราคาหุ้นเปิดเทรดวันแรกเหนือจองเกือบ 100% เป็นการปรับขึ้นดีเกินคาด ที่นักลงทุนตอบรับดีส่วนหนึ่งเพราะแนวโน้มอุตสาหกรรมโตต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทก็มีอัตราการเติบโตของผลประกอบการที่ดี รวมทั้งนักลงทุนเชื่อมั่นใน บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) ซึ่งเป็นบริษัทแม่อยู่ในตลาดมานาน
สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำเงิน 140 ล้านบาท ไปชำระหนี้เงินกู้ และอีก 123 ล้านบาท เป็นเงินทุนหมุนเวียน และขยายกำลังการผลิตซื้อเครื่องจักร เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 500 ตันข้าวสาลีต่อวัน จากปัจจุบันที่ 250 ตันข้าวสาลีต่อวัน มูลค่าการลงทุน 500-600 ล้านบาทที่จะใช้ในปี 56 อย่างไรก็ตาม จะต้องขอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติโดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในต้นปี 56
โดยผลประกอบการปี 55 มั่นใจรายได้รวมเติบโต 20% จากปี 54 ที่ 800 ล้านบาท โดยครึ่งแรกมีรายได้ 560 ล้านบาท แนวโน้มไตรมาส 4 คาดว่าทั้งรายได้ และกำไรจะสูงกว่าทั้ง qoq และ yoy เพราะเป็นฤดุกาลใช้ปริมาณแป้งสาลีมากที่สุดการผลิตก็เพิ่มขึ้น ส่วนในปี 56 คาดว่ารายได้น่าจะโตใกล้เคียงกับปีนี้