ที เอส ฟลาวมิลล์ เตรียมนำกำไรสะสมจ่ายปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นเดิม 100 ล้านบาท ก่อนเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ปลาย พ.ย. ด้านที่ปรึกษาคาดกำหนดราคาเสนอขายหุ้น 1-2 วันนี้ ขณะผู้บริหาร คาดปีนี้รายได้โต 20% จากปี 54 ที่มีรายได้ 800 ล้านบาท ขณะกำไร 6 เดือนปีนี้สูงกว่าทั้งปี 54 ที่มี 32 ล้านบาท
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตแป้งสาลี เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยการเสนอขายหุ้นครั้งนี้จะแบ่งเป็นเสนอขายแก่ผู้ถือทุกรายของบริษัท ไทยชูการ์ เทอร์มิเนิ้ล จำกัด (มหาชน) หรือ TSTE 25.35 ล้านหุ้น และอีก 59.64 ล้านหุ้น เสนอขายแก่นักลงทุนบุคคล โดย 1-2 วันนี้ก็จะมีการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนนั้นบริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และนำไปลงทุนขยายกำลังผลิตตามแผน จากที่บริษัทมีแผนในอนาคตเพิ่มกำลังการผลิตแป้งสาลีรวมเป็น 500 ตันข้าวสาลี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 250 ตันข้าวสาลี ซึ่งใช้งบลงทุนรวมประมาณ 550 ล้านบาทในการซื้อเครื่องจักร ก่อสร้างอาคารการผลิต การซ่อมแซมโกดังคลังสินค้าในส่วนของแป้งสาลีและลำข้าว และสร้างไซโลเก็บข้าวเพิ่มเติม เพื่อนำกำลังการผลิตเพิ่มไปจำหน่ายให้แก่กลุ่มลูกค้าใหม่ภูมิภาคอื่นมากขึ้น เช่น ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคใต้ จากเดิมเน้นขายให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
สำหรับในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ราม 800 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีแรกของปี 55 มีรายได้แล้ว 555 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าทั้งปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 18.2% โดยช่วงครึ่งปีแรกมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 15% ซึ่งบริษัทคาดว่าหลังจากเพิ่มกำลังการผลิตแล้วจะทำให้รายได้และกำไรในปี 57 เติบโตเป็นเท่าตัว จากมีรายได้ในการขายมากขขึ้น และทำให้บริหารจัดการวัตถุดิบได้ดีขึ้นจากสั่งซื้อวัตถุดิบได้คราวละปริมาณมากขึ้นทำให้มีอำนาจต่อรองทำ
ให้ต้นทุนลดลง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่บริษัทจะมีการเสนอขายหุ้นนั้น จะมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างการให้แก่ผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท โดยจ่ายจากกำไรสะสม หลังจากการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้ว บริษัทยังคงมีกำไรสะสมอยู่ 47 ล้านบาท โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50%
นายนิธิกรณ์ ศรีคิรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทที่ปรึกษา เอเซียพลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวว่า นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นของ TMILL จำนวนมาก เนื่องจากบริษัทคาดว่าจะสามารถขายหุ้นได้กลางเดือน พ.ย. และนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จังหวะ และภาพรวมตลาดหุ้นดี และกระแสหุ้นไอพีโอปัจจุบันดีมากซึ่งเห็นจากที่ผ่านมานั้นเทรดวันแรกราคาสูงกว่าจองจำนวนมาก ประกอบกับบริษัทอยู่ในกลุ่มอุปโภคบริโภคที่มีพื้นฐานที่ดี
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตแป้งสาลี เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยการเสนอขายหุ้นครั้งนี้จะแบ่งเป็นเสนอขายแก่ผู้ถือทุกรายของบริษัท ไทยชูการ์ เทอร์มิเนิ้ล จำกัด (มหาชน) หรือ TSTE 25.35 ล้านหุ้น และอีก 59.64 ล้านหุ้น เสนอขายแก่นักลงทุนบุคคล โดย 1-2 วันนี้ก็จะมีการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนนั้นบริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และนำไปลงทุนขยายกำลังผลิตตามแผน จากที่บริษัทมีแผนในอนาคตเพิ่มกำลังการผลิตแป้งสาลีรวมเป็น 500 ตันข้าวสาลี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 250 ตันข้าวสาลี ซึ่งใช้งบลงทุนรวมประมาณ 550 ล้านบาทในการซื้อเครื่องจักร ก่อสร้างอาคารการผลิต การซ่อมแซมโกดังคลังสินค้าในส่วนของแป้งสาลีและลำข้าว และสร้างไซโลเก็บข้าวเพิ่มเติม เพื่อนำกำลังการผลิตเพิ่มไปจำหน่ายให้แก่กลุ่มลูกค้าใหม่ภูมิภาคอื่นมากขึ้น เช่น ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคใต้ จากเดิมเน้นขายให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
สำหรับในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ราม 800 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีแรกของปี 55 มีรายได้แล้ว 555 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าทั้งปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 18.2% โดยช่วงครึ่งปีแรกมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 15% ซึ่งบริษัทคาดว่าหลังจากเพิ่มกำลังการผลิตแล้วจะทำให้รายได้และกำไรในปี 57 เติบโตเป็นเท่าตัว จากมีรายได้ในการขายมากขขึ้น และทำให้บริหารจัดการวัตถุดิบได้ดีขึ้นจากสั่งซื้อวัตถุดิบได้คราวละปริมาณมากขึ้นทำให้มีอำนาจต่อรองทำ
ให้ต้นทุนลดลง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่บริษัทจะมีการเสนอขายหุ้นนั้น จะมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างการให้แก่ผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท โดยจ่ายจากกำไรสะสม หลังจากการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้ว บริษัทยังคงมีกำไรสะสมอยู่ 47 ล้านบาท โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50%
นายนิธิกรณ์ ศรีคิรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทที่ปรึกษา เอเซียพลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวว่า นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นของ TMILL จำนวนมาก เนื่องจากบริษัทคาดว่าจะสามารถขายหุ้นได้กลางเดือน พ.ย. และนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จังหวะ และภาพรวมตลาดหุ้นดี และกระแสหุ้นไอพีโอปัจจุบันดีมากซึ่งเห็นจากที่ผ่านมานั้นเทรดวันแรกราคาสูงกว่าจองจำนวนมาก ประกอบกับบริษัทอยู่ในกลุ่มอุปโภคบริโภคที่มีพื้นฐานที่ดี
