น้ำตาลขอนแก่น ส่งบริษัทย่อย “ที เอส ฟลาวมิลล์” ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นไอพีโอ 85 ล้านหุ้น หวังนำเงินขยายกำลังการผลิตอีก 50% เบื้องต้นคาดใช้เงินลงทุนอีก 550 ล้านบาท
รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL ซึ่งประกอบธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งสาลี จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็น 25.35 เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นทุกรายของบริษัท ไทยชูการ์เทอมิเนิ้ล จำกัด (มหาชน) หรือ TSTE และอีก 59.64 ล้านหุ้น เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ บริษัทจะนำไปขยายกำลังการผลิตที่มีอยู่เดิม 250 ตันข้าวสาลีต่อวัน เพิ่มเป็น 500 ตันข้าวสาลีต่อวัน ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าว บริษัทจะต้องลงทุนเครื่องจักร และอุปกรณ์สำหรับผลิตแป้งสาลี รวมถึงถังไซโลเก็บวัตถุดิบข้าวสาลีและแป้งสาลีอีกจำนวน 1 ชุด เบื้องต้นคาดว่า จะใช้เงินลงทุนประมาณ 550 ล้านบาท โดยบริษัทจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนโครงการดังกล่าวประมาณ 19% โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 56
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 52 บริษัทมีรายได้รวม 1,066.4 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 38.5 ล้านบาท ในปี 53 มีรายได้รวม 906.9 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 69.2 ล้านบาท ในปี 54 มีรายได้รวม 910.7 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 34.5 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 54 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 798.2 ล้านบาท
บริษัทมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นดังนี้ บริษัท ไทยชูการ์ เทอร์มิเนิ้ล จำกัด (มหาชน) หรือ TSTE ถือหุ้น 197.63 ล้านหุ้น คิดเป็น 98.82% ของหุ้นทั้งหมด หลังขายหุ้นไอพีโอเหลือถือหุ้น 69.34% บริษัทอุตสาหกรรมมิตรเกษตร 1.04 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.52% หลังขายหุ้นไอพีโอ เหลือ 0.37%
ขณะที่บริษัทน้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL ถือหุ้น 1.93 แสนหุ้น คิดเป้น 0.10% หลังขายไอพีโอเหลือถือหุ้นสัดส่วน 0.07% ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ไทยชูการ์ เทอร์มิเนิ้ล คือ น้ำตาลขอนแก่น ถือหุ้น 31.43 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.82%
รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL ซึ่งประกอบธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งสาลี จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็น 25.35 เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นทุกรายของบริษัท ไทยชูการ์เทอมิเนิ้ล จำกัด (มหาชน) หรือ TSTE และอีก 59.64 ล้านหุ้น เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ บริษัทจะนำไปขยายกำลังการผลิตที่มีอยู่เดิม 250 ตันข้าวสาลีต่อวัน เพิ่มเป็น 500 ตันข้าวสาลีต่อวัน ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าว บริษัทจะต้องลงทุนเครื่องจักร และอุปกรณ์สำหรับผลิตแป้งสาลี รวมถึงถังไซโลเก็บวัตถุดิบข้าวสาลีและแป้งสาลีอีกจำนวน 1 ชุด เบื้องต้นคาดว่า จะใช้เงินลงทุนประมาณ 550 ล้านบาท โดยบริษัทจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนโครงการดังกล่าวประมาณ 19% โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 56
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 52 บริษัทมีรายได้รวม 1,066.4 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 38.5 ล้านบาท ในปี 53 มีรายได้รวม 906.9 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 69.2 ล้านบาท ในปี 54 มีรายได้รวม 910.7 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 34.5 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 54 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 798.2 ล้านบาท
บริษัทมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นดังนี้ บริษัท ไทยชูการ์ เทอร์มิเนิ้ล จำกัด (มหาชน) หรือ TSTE ถือหุ้น 197.63 ล้านหุ้น คิดเป็น 98.82% ของหุ้นทั้งหมด หลังขายหุ้นไอพีโอเหลือถือหุ้น 69.34% บริษัทอุตสาหกรรมมิตรเกษตร 1.04 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.52% หลังขายหุ้นไอพีโอ เหลือ 0.37%
ขณะที่บริษัทน้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL ถือหุ้น 1.93 แสนหุ้น คิดเป้น 0.10% หลังขายไอพีโอเหลือถือหุ้นสัดส่วน 0.07% ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ไทยชูการ์ เทอร์มิเนิ้ล คือ น้ำตาลขอนแก่น ถือหุ้น 31.43 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.82%