แบงก์ชาติปลื้มธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยขอสินเชื่อไปลงทุนซื้อกิจการเมืองนอกคึกคัก ยันไม่ใช่ย้ายฐานการผลิต หรือหนีค่าแรงแพง ส่วนสินเชื่อต่างจังหวัดขยับขึ้นจากการที่หน่วยงานรัฐเร่งใช้จ่ายซ่อม สร้างสาธารณูปโภคเป็นหลัก
นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงสินเชื่อเพื่อการลงทุนในต่างประเทศว่า ในรอบ 9 เดือนของปี 2555 ขยายตัวได้ดีมาก ส่วนใหญ่เป็นการขอสินเชื่อจากระบบสถาบันการเงินของธุรกิจขนาดใหญ่ซึ่งลงทุนขยายกิจการ หรือการซื้อกิจการของบริษัทที่มีธุรกิจใกล้เคียง หรือเกี่ยวเนื่องกันในต่างประเทศ
แม้ว่าสินเชื่อในภาคนี้จะขยายตัวได้ดี แต่ยังไม่เห็นการขอสินเชื่อเพื่อนำไปลงทุนเพื่อย้ายฐานการผลิตของภาคอุตสาหกรรม และโรงงานมากนัก ทั้งๆ ที่ในช่วงนี้เป็นช่วงที่เข้าใกล้การรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน (เออีซี) และเป็นช่วงที่หลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง และย่อมกำลังจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง 300 บาท
“ต้องติดตามต่อไปอีกระยะหนึ่งว่า การขอสินเชื่อของภาคเอกชนไทยเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ แต่ในปีนี้ และปีที่ผ่านมาถือเป็นสินเชื่อที่ขยายตัวได้ดีประเภทหนึ่ง และทำให้สินเชื่อธุรกิจ 9 เดือนแรกของปีขยายตัวเป็นเลข 2 หลัก ล่าสุด ในไตรมาสที่ 3 สินเชื่อธุรกิจโดยรวมขยายตัวได้ 12.5% แต่ยังไม่เห็นการขอสินเชื่อของโรงงานขนาดกลางย่อยที่ขอสินเชื่อเพื่อย้ายฐานการผลิต”
นายเกริก กล่าวอีกว่า เท่าที่มีการติดตามจากสถาบันการเงิน การออกไปลงทุนในต่างประเทศแม้จะเป็นในประเทศเพื่อนบ้านของเรา หรือในเออีซี ยังไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่จะดำเนินการ เพราะมีความเสี่ยง บางธนาคารพาณิชย์ก็พยายามที่จะช่วยนำร่องในเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่เห็นการเร่งย้ายฐานการผลิตของธุรกิจไทยมากนัก
ส่วนการขยายสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในต่างจังหวัด ที่ผ่านมา ยังคงเติบโตดีในเขตหัวเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยว และเมืองที่เป็นเขตเศรษฐกิจ แต่สำหรับการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มผู้ที่ยังไม่เข้าถึงแหล่งเงินในต่างจังหวัดนั้น ยังเกิดขึ้นค่อนข้างน้อยกว่าที่ ธปท.ต้องการ เหตุผลหนึ่งที่เห็นการขยายตัวที่ดีของสินเชื่อในต่างจังหวัดส่วนหนึ่งมาจากการเร่งสร้าง และซ่อมแซมสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐบาลในต่างจังหวัด เช่น สร้างถนน ขุดคลอง เป็นต้น
นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงสินเชื่อเพื่อการลงทุนในต่างประเทศว่า ในรอบ 9 เดือนของปี 2555 ขยายตัวได้ดีมาก ส่วนใหญ่เป็นการขอสินเชื่อจากระบบสถาบันการเงินของธุรกิจขนาดใหญ่ซึ่งลงทุนขยายกิจการ หรือการซื้อกิจการของบริษัทที่มีธุรกิจใกล้เคียง หรือเกี่ยวเนื่องกันในต่างประเทศ
แม้ว่าสินเชื่อในภาคนี้จะขยายตัวได้ดี แต่ยังไม่เห็นการขอสินเชื่อเพื่อนำไปลงทุนเพื่อย้ายฐานการผลิตของภาคอุตสาหกรรม และโรงงานมากนัก ทั้งๆ ที่ในช่วงนี้เป็นช่วงที่เข้าใกล้การรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน (เออีซี) และเป็นช่วงที่หลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง และย่อมกำลังจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง 300 บาท
“ต้องติดตามต่อไปอีกระยะหนึ่งว่า การขอสินเชื่อของภาคเอกชนไทยเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ แต่ในปีนี้ และปีที่ผ่านมาถือเป็นสินเชื่อที่ขยายตัวได้ดีประเภทหนึ่ง และทำให้สินเชื่อธุรกิจ 9 เดือนแรกของปีขยายตัวเป็นเลข 2 หลัก ล่าสุด ในไตรมาสที่ 3 สินเชื่อธุรกิจโดยรวมขยายตัวได้ 12.5% แต่ยังไม่เห็นการขอสินเชื่อของโรงงานขนาดกลางย่อยที่ขอสินเชื่อเพื่อย้ายฐานการผลิต”
นายเกริก กล่าวอีกว่า เท่าที่มีการติดตามจากสถาบันการเงิน การออกไปลงทุนในต่างประเทศแม้จะเป็นในประเทศเพื่อนบ้านของเรา หรือในเออีซี ยังไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่จะดำเนินการ เพราะมีความเสี่ยง บางธนาคารพาณิชย์ก็พยายามที่จะช่วยนำร่องในเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่เห็นการเร่งย้ายฐานการผลิตของธุรกิจไทยมากนัก
ส่วนการขยายสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในต่างจังหวัด ที่ผ่านมา ยังคงเติบโตดีในเขตหัวเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยว และเมืองที่เป็นเขตเศรษฐกิจ แต่สำหรับการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มผู้ที่ยังไม่เข้าถึงแหล่งเงินในต่างจังหวัดนั้น ยังเกิดขึ้นค่อนข้างน้อยกว่าที่ ธปท.ต้องการ เหตุผลหนึ่งที่เห็นการขยายตัวที่ดีของสินเชื่อในต่างจังหวัดส่วนหนึ่งมาจากการเร่งสร้าง และซ่อมแซมสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐบาลในต่างจังหวัด เช่น สร้างถนน ขุดคลอง เป็นต้น