ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุง “หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน ปี 2549” ให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ ASEAN CG Scorecard เพื่อสานโอกาสพร้อมยกระดับมาตรฐานบริษัทจดทะเบียนไทยก้าวสู่ ASEAN Economics Community (AEC) โดยปรับแนวปฏิบัติปัจจุบันให้ชัดเจน และเพิ่มแนวปฏิบัติเพื่อให้มาตรฐานการปฏิบัติที่สูงขึ้น โดยแนวปฏิบัติที่ปรับปรุงใหม่ บจ. จะใช้ในการเปิดเผยข้อมูลตามแบบ 56-1 และรายงานประจำปี 2556
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (21 พ.ย.) คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติเห็นชอบในการปรับปรุงหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน ปี 2549 ให้มีความทันสมัย และให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ ASEAN CG Scorecard ซึ่งกำหนดโดยหน่วยงานกำกับตลาดทุนของกลุ่มประเทศในอาเซียน (ASEAN Capital Market Forum หรือ ACMF) ทั้งนี้ เพื่อยกระดับมาตรฐาน และการปฏิบัติด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี และเพื่อเตรียมความพร้อมให้บริษัทจดทะเบียนไทยสู่การแข่งขันในระดับภูมิภาค ก้าวสู่ ASEAN Economics Community (AEC) ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558
“การปรับปรุงหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนในครั้งนี้ จะเป็นการยกระดับมาตรฐาน และแนวปฏิบัติการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย เพื่อสร้างความน่าสนใจในการลงทุนของบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีต่อนานาประเทศ การปรับปรุงหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงาน ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งสำรวจความคิดเห็นของบริษัทจดทะเบียนในการปรับปรุงหลักการฯ ซึ่งผลการสำรวจพบว่า ร้อยละ 85 ของบริษัทจดทะเบียนที่ได้ตอบแบบสำรวจเห็นว่า หลักการฯ ที่ปรับปรุงเป็นเรื่องที่ได้ปฏิบัติอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการเผยแพร่แนวปฏิบัติที่ปรับปรุงใหม่ภายในเดือนธันวาคม 2555 และจะให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ปรับปรุงใหม่ตั้งแต่ปี 2557 พร้อมกันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดชี้แจงทำความเข้าใจให้แก่บริษัทจดทะเบียนควบคู่กันไปด้วย” นายจรัมพรกล่าว
หลักการกำกับการดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนกำหนดไว้ 5 หมวด ได้แก่ 1.สิทธิของผู้ถือหุ้น 2.การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม 3.บทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย 4.การเปิดเผยข้อมูล และความโปร่งใส และ 5.ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ โดยการปรับปรุงครั้งนี้ เป็นการปรับปรุงแนวปฏิบัติให้มีความชัดเจน และมีมาตรฐานการปฏิบัติที่สูงขึ้น เช่น การเผยแพร่ข้อมูลการประชุมผู้ถือหุ้นบน website ของบริษัทล่วงหน้าอย่างน้อย 28 วันก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้น และจัดทำเป็นภาษาอังกฤษเผยแพร่พร้อมภาษาไทย การกำหนดนโยบายต่อต้านการทุจริตการคอร์รัปชัน ตลอดจนส่งเสริมให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับ การจัดทำรายงานแห่งความยั่งยืนด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ เป็นต้น ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (21 พ.ย.) คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติเห็นชอบในการปรับปรุงหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน ปี 2549 ให้มีความทันสมัย และให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ ASEAN CG Scorecard ซึ่งกำหนดโดยหน่วยงานกำกับตลาดทุนของกลุ่มประเทศในอาเซียน (ASEAN Capital Market Forum หรือ ACMF) ทั้งนี้ เพื่อยกระดับมาตรฐาน และการปฏิบัติด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี และเพื่อเตรียมความพร้อมให้บริษัทจดทะเบียนไทยสู่การแข่งขันในระดับภูมิภาค ก้าวสู่ ASEAN Economics Community (AEC) ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558
“การปรับปรุงหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนในครั้งนี้ จะเป็นการยกระดับมาตรฐาน และแนวปฏิบัติการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย เพื่อสร้างความน่าสนใจในการลงทุนของบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีต่อนานาประเทศ การปรับปรุงหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงาน ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งสำรวจความคิดเห็นของบริษัทจดทะเบียนในการปรับปรุงหลักการฯ ซึ่งผลการสำรวจพบว่า ร้อยละ 85 ของบริษัทจดทะเบียนที่ได้ตอบแบบสำรวจเห็นว่า หลักการฯ ที่ปรับปรุงเป็นเรื่องที่ได้ปฏิบัติอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการเผยแพร่แนวปฏิบัติที่ปรับปรุงใหม่ภายในเดือนธันวาคม 2555 และจะให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ปรับปรุงใหม่ตั้งแต่ปี 2557 พร้อมกันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดชี้แจงทำความเข้าใจให้แก่บริษัทจดทะเบียนควบคู่กันไปด้วย” นายจรัมพรกล่าว
หลักการกำกับการดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนกำหนดไว้ 5 หมวด ได้แก่ 1.สิทธิของผู้ถือหุ้น 2.การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม 3.บทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย 4.การเปิดเผยข้อมูล และความโปร่งใส และ 5.ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ โดยการปรับปรุงครั้งนี้ เป็นการปรับปรุงแนวปฏิบัติให้มีความชัดเจน และมีมาตรฐานการปฏิบัติที่สูงขึ้น เช่น การเผยแพร่ข้อมูลการประชุมผู้ถือหุ้นบน website ของบริษัทล่วงหน้าอย่างน้อย 28 วันก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้น และจัดทำเป็นภาษาอังกฤษเผยแพร่พร้อมภาษาไทย การกำหนดนโยบายต่อต้านการทุจริตการคอร์รัปชัน ตลอดจนส่งเสริมให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับ การจัดทำรายงานแห่งความยั่งยืนด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ เป็นต้น ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th
