ผู้บริหารกฤษดาฯ ชงผู้ถือหุ้น รับ “รีแบรนด์” เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ หลังปรับกลุ่มลูกค้าเจาะระดับล่างมากขึ้น สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อโครงการ ลั่นปี 56 พลิกเป็นกำไร วางเป้า 5 ปี ต้องล้างขาดทุนสะสม 1,400 ล้านบาท รุกชลบุรีเปิดโครงการแนวราบ 800 ล้านบาท
นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC กล่าวถึงการปรับองค์กรว่า ทางบริษัทมีแผนจะเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ โดยเตรียมเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณา รวมถึงการรีแบรนดิ้ง เนื่องจากการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ (โปรดักต์) ของบริษัทที่หันมาจับตลาดลูกค้าระดับล่างมากขึ้นจากเดิมเน้นตลาดบนเป็นหลัก
“หากใช้ชื่อเดิมอาจทำให้ลูกค้าไม่กล้าตัดสินใจซื้อโครงการ” นายวิรัตน์กล่าว
สำหรับในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ เพียง 500 ล้านบาท และตั้งเป้ารับรู้รายได้ในปีหน้าไว้ 1,000 ล้านบาท และตั้งเป้าอีก 3 ปีข้างหน้าจะมียอดรับรู้รายได้ปีละ 4,000-5,000 ล้านบาท สำหรับปริมาณเงินลงทุนพัฒนาโครงการได้ขอสินเชื่อจากธนาคารเกียรตินาคิน
ขณะที่ในปี 56 บริษัทเชื่อมั่นจะพลิกกลับมามีกำไรจากปีนี้ที่ยังมีผลขาดทุน โดยตั้งเป้ายอดขายในปี 56 จำนวน 1,500 ล้านบาท และรับรู้เป็นรายได้ 1,000 ล้านบาท ส่วนปี 57 ตั้งเป้ายอดขายที่ 2,500 ล้านบาท และรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท รายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากโครงการคอนโดมิเนียม 60% และโครงการแนวราบ 40%
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 55 บริษัทมีกำไรสุทธิ 22.30 ล้านบาท เทียบกับผลขาดทุนจำนวน 58.64 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 138.03% อย่างไรก็ตาม งวด 9 เดือน บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 50.82 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 239.82 ล้านบาท
นายวิรัตน์ กล่าวว่า ในปี 56 บริษัทมีแผนเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,800-2,000 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 1 โครงการ มูลค่า 800-1,000 ล้านบาท ตั้งงบซื้อที่ดิน 200 ล้านบาท โดยบริษัทจะไม่เน้นหาซื้อแลนด์แบงก์จำนวนมาก ส่วนใหญจะซื้อที่ดินมาแล้วพัฒนาภายใน 3 เดือน
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้แบรนด์คอนโดมิเนียม “The Kris” ส่วนโครงการแนวราบระดับราคา 1-3 ล้านบาท ใช้แบรนด์ “The First” และระดับราคา 3-5 ล้านบาทจะใช้แบรนด์ “The Pride”
“ปีหน้าจะเน้นจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยบริษัทจะใช้คอนโดฯ แบรนด์ The Kris เป็นหัวหอกในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่แก่กลุ่มคนรุ่นใหม่ให้แก่บริษัท และยังคงเน้นการมุ่งพัฒนาสินค้าแบบโลว์ไรซ์ ซึ่งถือว่าเป็นคอนโดฯ ที่น่าอยู่ จำนวนผู้พักอาศัยไม่มากจนเกินไป”
ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด มูลค่าโครงการรวม 800 ล้านบาท ในจังหวัดชลบุรี เนื้อที่ 48 ไร่ โดยจะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ระดับราคา 2-3 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปลายปีนี้ และเริ่มเปิดขายได้ในปี 2556 ประมาณ 150-200 หลัง
ล่าสุด ได้เปิดพรีเซลล์โครงการ “เดอะคริส 6-7” ด้วยข้อเสนอราคาพิเศษสุดเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท พร้อมอุปกรณ์ไฟฟ้า มูลค่า 22,000 บาท ในเดือนพฤศจิกายน โดยวางเป้าการขายไว้เพียง 20% ก่อนเร่งก่อสร้างตึกให้แล้วเสร็จเพื่อปรับราคา และเปิดการขายอีกครั้ง
The Kris Extra 6-7 เป็นอาคารชุดสูง 8 ชั้น ซึ่งถือเป็นเฟสสุดท้ายของโครงการ The Kris ซอยรัชดา 17 โดย The Kris Extra 6 มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 170 ยูนิต มูลค่าการขาย 377 ล้านบาท ส่วน The Kris Extra 7 มีจำนวนยูนิต ทั้งสิ้น 178 ยูนิต มูลค่าการขาย 408 ล้านบาท โครงการจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาสแรกของปี 2556 และทำการส่งมอบห้องชุดในลูกค้าได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 โดยได้มีโปรโมชัน จอง 5,000 บาท ทำสัญญา 15,000 บาท ดาวน์เพียง 5% ผ่อน 3,800 บาทต่อเดือน ซึ่ง The Kris Extra 6 ผ่อนดาวน์ 21 งวด และ The Kris Extra 7 ผ่อนดาวน์ 25 งวด ทั้งนี้ปัจจุบัน บริษัทได้ปิดการขายโครงการเดอะคริส อาคาร 1-3 แล้ว และขณะนี้กำลังส่งมอบห้องชุด The Kris Extra 4 ให้แก่ลูกค้า โดยปัจจุบัน มียูนิตเหลือขายเพียง 20 ยูนิต ส่วน The Kris Extra 5 มียอดขายแล้ว 50% จากจำนวน 193 ยูนิต ซึ่งทั้งหมดเป็นห้องแบบ Studio Fully Furnished ราคาเริ่มต้นเพียง 1.5 ล้านบาท
