กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง อวดผลงาน 9 เดือน โชว์กำไรพุ่งกระฉูด 697.62% ส่วนรายได้โดด
เด่นไม่แพ้กัน โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 3,767.30 ล้านบาท “สมบูรณ์” เผยเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากงานรับเหมาก่อสร้าง และรายได้จากการจำหน่ายเงินลงทุนใน “จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ” มั่นใจทั้งปียังทำผลงานไม่พลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4,300 ล้านบาทแน่
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยตามงบการเงินรวมสำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2555 พบว่า มีผลกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ (ส่วนของบริษัทใหญ่) จำนวน 677.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีผลกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ จำนวน 84.97 ล้านบาท โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นจำนวน 592.77 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 697.62 ซึ่งถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนนับตั้งแต่ GUNKUL ก่อตั้งบริษัทมา
สำหรับสาเหตุที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากบริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้จำนวน 3,767.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 2,090.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,676.80 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 80.21 โดยเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการรับเหมางานก่อสร้าง 1,564.11 ล้านบาท รวมถึงรายได้จากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด 416.22 ล้านบาท (ทั้งนี้ ได้รวมผลกำไรส่วนที่เกิดจากการรับรู้มูลค่าเงินลงทุนในบริษัทดังกล่าวด้วยมูลค่ายุติธรรม ณ วันที่โอนจำหน่ายเงินลงทุนให้แก่ผู้ร่วมทุน และขาดซึ่งอำนาจในการควบคุม 97.01 ล้านบาทแล้ว)
“ผลประกอบการงวด 9 เดือนของ GUNKUL ออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ซึ่งถือเป็นผลการดำเนินงานที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา เป็นผลสืบเนื่องมาจากการร่วมมือกันของทุกฝ่ายในบริษัทที่ผลักดันให้ธุรกิจของ GUNKUL ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการผลิต จัดหา และจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า และระบบพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และธุรกิจก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งถือเป็นการต่อยอดการลงทุนในธุรกิจอย่างครบวงจร เพื่อสร้างฐานกำไรให้มีความแข็งแกร่งในระยะยาว” นายสมบูรณ์กล่าว
นายสมบูรณ์กล่าวต่อในช่วงท้ายว่า จากการวางกลยุทธ์เพื่อต่อยอดธุรกิจไปยังธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนโดยเฉพาะ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม เพื่อให้ธุรกิจของ GUNKUL ครบวงจรมากขึ้น ซึ่งธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจะเริ่มทยอยสร้างรายได้ให้แก่บริษัทตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป ขณะที่บริษัทยังมีงานที่อยู่ในมือ (Backlog) อีกกว่ามูลค่า 1,500 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ และปี 2556 ดังนั้น จึงทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตตามเป้าที่ 4,300 ล้านบาทได้
อย่างไรก็ตาม นอกจากโครงการในประเทศแล้ว GUNKUL ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศพม่า ซึ่งปัจจุบันได้รับสัมปทานแล้ว 3 รัฐ 1,000 เมกะวัตต์ และหากดำเนินการแล้วเสร็จจะถือเป็นการต่อยอดธุรกิจในประเทศพม่า จากปัจจุบันที่มีเฉพาะธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าเท่านั้น