กังวล Fiscal Cliff นักลงทุนแห่เทขายหุ้นทั้งภูมิภาค กดดันหุ้นไทยร่วง 6.04 จุด โบรกฯ มองหากยังไม่ยืนเหนือ 1,300 จุด ตลาดยังอยู่ใสช่วงปรับฐานต่อไป ภาพรวมระยะสั้นยังไร้ปัจจัยใหม่สนับสนุน
ตลาดหุ้นไทยวันนี้(8 พ.ย.) ยังปรับตัวในแดนลบต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า โดยปิดที่ระดับ 1,293.70 จุด ลดลง 6.04 จุด หรือ -0.46% มูลค่าการซื้อขาย 43,002.72 ล้านบาท ระหว่างวันหุ้นไทยแกว่งตัวแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,295.02 จุด ต่ำสุดที่ 1,285.77 จุด ภาพรวมหุ้นไทยแกว่งตัวในทางขาลงตามตลาดภูมิภาค หลังดัชนีดาวโจนส์ร่วงแรงจากเหตุกังวลปัญหา Fiscal Cliff
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 192 หลักทรัพย์ ลดลง 381 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 144 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ WHA มูลค่าการซื้อขาย 6,122.94 ล้านบาท ปิดที่ 20.00 บาท ราคา IPO 13.25 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,629.98 ล้านบาท ปิดที่ 187.00 บาท ลดลง 1.00 บาท BTS มูลค่าการซื้อขาย 2,359.87 ล้านบาท ปิดที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,874.48 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท ลดลง 1.25 บาท และ BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,412.41 ล้านบาท ปิดที่ 174.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
ขณะการซื้อขายสุทธิจากตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,242.27 ล้านบาท เช่นเดียวกับบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ขายสุทธิ 1,152.51 ล้านบาท โดยนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,860.47 ล้านบาท และสถาบัน ซื้อสุทธิ 534.30 ล้านบาท
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวในทางขาลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย หลังจากที่ดาวโจนส์ได้ปรับตัวลงมากเมื่อคืนที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหา Fiscal Cliff ขณะที่ตลาดในยุโรปเปิดมาดูดี เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ทำให้เชื่อว่าอาจทำให้ดาวโจนส์รีบาวนดืได้บ้าง
“ภาพโดยรวมตลาดฯ เป็นลักษณะของการเลือกเล่นเป็นรายตัว และให้น้ำหนักไปทางลงมากกว่าขึ้น โดยยังอยู่ในช่วงของการประกาศงบฯไตรมาส 3/55 แต่ถ้าจบแล้ว คงจะไม่มีแรงหนุนให้ตลาดฯ ปรับตัวขึ้นไปได้ ดังนั้น ดีชนีคงจะปรับฐานก่อนระยะหนึ่ง เพราะตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา จึงมองว่า มองโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวลงมีได้ต่อ เพราะคนยังกังวลปัญหาในสหรัฐฯ และยุโรป”
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) ประเมินว่า ดัชนีคงจะอยู่ในลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบ โดยให้แนวรับ 1,285-1,270 จุด แนวต้าน 1,300-1,315 จุดในเงื่อนไขตราบใดที่ตลาดยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้อย่างชัดเจน ดัชนียังมีความเสี่ยงของการพักฐานอยู่