xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปิดบวก 8 จุด มีลุ้นไปต่อ...จับตาเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


    ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันนี้ (2 พ.ย.) ปิดตลาดที่ระดับ 1,306.60 จุด เพิ่มขึ้น 8.61 จุด หรือ 0.66% มูลค่าการซื้อขาย 38,340.87 ล้านบาท ภาพรวมดัชนีหุ้นไทยปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค  หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ งวดเดือน ต.ค.ออกมาดีแทบทั้งหมด และเชื่อกันว่า เม็ดเงิน QE3 น่าจะมุ่งเข้าตลาดทุนโดยเฉพาะในฝั่งเอเชีย ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า

    โดยหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 333 หลักทรัพย์ ลดลง 204 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 173 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่  ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,637.06 ล้านบาท ปิดที่ 186.00 บาท ลดลง   6.00 บาท   PTT    มูลค่าการซื้อขาย 1,917.62 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.00 บาท  SCC    มูลค่าการซื้อขาย 1,838.17 ล้านบาท ปิดที่ 402.00 บาท เพิ่มขึ้น 13.00 บาท  CPALL  มูลค่าการซื้อขาย 1,560.73 ล้านบาท ปิดที่  40.75 บาท เพิ่มขึ้น  0.75 บาท และ  TPIPL  มูลค่าการซื้อขาย 1,451.41 ล้านบาท ปิดที่  16.10 บาท เพิ่มขึ้น  1.10 บาท

    น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้ว่าจะสหรัฐฯ จะมีเรื่องพายุแซนดี้เข้ามากระทบ และมีการประเมินความเสียหายไว้ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่นักวิเคราะห์ฯก็ประเมินว่า รัฐบาลอาจจะมีการเร่งอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบในจำนวนที่ใกล้เคียงกับความเสียหาย ซึ่งตรงนี้ทำให้ตัวเลข GDP งวดไตรมาส 4/55 ของสหรัฐฯ จะไม่อ่อนลงมากเหมือนอย่างที่มีการคาดการณ์กันไว้
    
    ขณะเดียวกัน  เวลานี้อัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ทำให้ผลตอบแทนในตลาดเงินไม่ค่อยจูงใจ ดังนั้น เม็ดเงินที่มาจาก QE3 จึงต้องหาที่ลงนั่นคือ ตลาดทุนที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า

    อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่น่ากังวลจากยุโรปอยู่ เพราะยังไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่  อีกทั้งนักลงทุนควรจับตาการเมืองในประเทศมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้น

    ทำให้ประเมินว่า จากนี้ไปดัชนีจะต้องประคองตัวเองให้ยืนเหนือระดับ 1,300 จุดให้ได้ แล้วจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,310-1,320 จุด แต่ถ้าหลุดระดับ 1,300 จุด จะเป็นอะไรที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะมีโอกาสที่จะลงมาทดสอบแถว 1,270 จุด  ดังนั้น แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า ดัชนีจะแกว่งตัว เนื่องจากยังต้องจับตาดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ พร้อมให้แนวรับ 1,300 จุด แนวต้าน 1,310-1,320 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น