เช้าวันนี้ หุ้นของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เข้าเทรดเป็นวันแรก ซึ่งพบว่าเปิดตลาดที่ราคาหุ้นละ 16.50 บาท เพิ่มขึ้นจากราคา IPO ที่กำหนดขายหุ้นละ 13.25 บาท และราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดในช่วงเช้าที่ราคา 19.90 บาท ต่ำสุดที่ 16.50 บาท และปิดตลาดช่วงเช้าที่ราคา 19.70 บาท เปลี่ยนแปลงเพิ่้มขึ้น 6.45 บาท หรือ 48.68% มูลค่าซื้อขาย 4,062.47 ล้านบาท
โดยวานนี้ ผู้บริหาร WHA กล่าวไว้ว่า บริษัทมั่นใจว่าการเข้าจดทะเบียนวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะสามารถสูงกว่าราคาจองได้ เนื่องจาก นักลงทุนมีความเข้าใจธุรกิจของบริษัท ที่เป็นผู้จัดหาที่ดินและสร้างคลังสินค้าเพื่อในการเช่า ซึ่งถือว่าในตลาดมีบริษัทเท่านั้นที่ทำธุรกิจนี้ และผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่สูงเฉลี่ย 2 ปีที่ผ่านมาที่ 50% โดยถือว่าหุ้นของบริษัทเป็นหุ้นที่มีการเติบโตสูง (โกรสสต๊อก) ซึ่งจากการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้แก่นักลงทุนนั้น มีกองทุนต่างประเทศสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทจำนวนยอดล้นกว่า 10 เท่า และต้องการที่จะถือหุ้นระยะยาว
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการที่เจรจากับลูกค้ารายเดิม และลูกค้ารายใหม่ที่จะเข้ามาให้ทางบริษัทมีการสร้างคลังสินค้าให้ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ใหญ่ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาได้ประมาณปลายปีนี้ ส่วนแนวโน้มลูกค้าที่จะให้บริษัทมีการสร้างคลังสินค้าให้ในปีหน้า จะเป็นกลุ่มธุรกิจอุปโภคบริโภค ยานยนต์ ผู้ให้บริการด้านขนส่ง และจากการที่ญี่ปุ่นมีปัญหากับจีนนั้น ก็จะทำให้ญี่ปุ่นมีการย้ายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทยมากขึ้น จากที่ประเทศไทยมีจุดแข็งในเรื่องการเป็นศูนย์กลางในการขนส่งในภูมิภาคนี้
สำหรับบริษัทตั้งเป้าหมายในอีก 2-3 ปี ที่จะทำให้สัดส่วนกำไรของบริษัทมาจากการขายทรัพย์สิน เป็น 50% และค่าเช่าพื้นที่เป็น 50% จากปัจจุบัน สัดส่วนอยู่ที่ 85% เป็นการขายสินทรัพย์ และอีก 25% เป็นค่าเช่า เนื่องจากเพื่อสร้างความสมดุลของงบการเงิน เพราะหากเศรษฐกิจไม่ดีมีผลทำให้การขายสินทรัพย์ฯ ไม่ได้