“ออสสิริส” ประเมินราคาทองคำมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมายังแนวต้านที่สำคัญ 1,700 เหรียญ พร้อมคาดแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,655-1,710 เหรียญ ด้าน “วายแอลจี” แนะนำลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,664 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ฝ่ายวิจัย ออสสิริส ฟิวเจอร์ส (AFC Research) มองราคาทองคำสปอตด้วยภาพลบ โดยให้น้ำหนักกับแนวทางการจัดการหนี้สินภาคยุโรปในระดับมหภาคที่ยังยืดเยื้อ และไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยให้จับตาดูความคืบหน้าของผลการประชุม G20 ในช่วงต้นสัปดาห์ที่เนื้อหาสาระจะเน้นทางด้านภาพรวมของเศรษฐกิจโลก ครอบคลุมไปถึงวิกฤตหนี้ในยูโรโซน โดยกรีซเองยังเป็นประเทศสำคัญที่ยังน่าเป็นห่วง วันพฤหัสฯนี้ ที่จะมีการประชุม Eurogroup โดยเนื้อหาในการประชุมจะเน้นไปที่แผนงาน ความคืบหน้าในการช่วยเหลือสเปน กรีซ เช่น ESM รวมไปถึงการประกาศนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแห่งยุโรป และอังกฤษที่น่าจะตรึงที่ระดับ 0.75 และ 0.50% ตามลำดับ ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำได้ และสร้างความผันผวนต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม
นอกจากนี้ สัปดาห์นี้ให้จับตาดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ ในวันอังคาร-พุธ โดยเราคาดว่า โอบามามีแนวโน้มที่จะได้รับการเลือกตั้ง และสามารถที่จะดำรงตำแหน่งได้อีกวาระหนึ่งโดยน่าจะส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม และในช่วงปลายสัปดาห์ เราให้ความสำคัญกับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในจีนโดยรวม ได้แก่ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคและผู้ผลิตรายปี ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมรายปี และยอดค้าปลีกรายปี เป็นต้น ที่โดยรวมน่าจะดีขึ้น และส่งผลบวกต่อราคาทองคำได้เช่นกัน
กล่าวโดยสรุปแล้ว AFC Research มีความเห็นว่า หลังจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาดีเกินคาด ได้ส่งผลลบต่อการคาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและได้ส่งผลลบต่อราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ โดยได้กดดันราคาให้หลุดแนวรับที่สำคัญ $1,700/oz สัปดาห์นี้ ราคาทองคำมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมายังแนวต้านที่สำคัญ $1,700/oz ได้ตามปัจจัยดังกล่าวข้างบน ซึ่งเบื้องต้น AFC Research คาดการณ์ว่า ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ $1,655/oz~$1,710/oz ในสัปดาห์นี้
ด้าน วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเกินคาด 171,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม โดยมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง ซึ่งการจ้างงานดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นกว่าในเดือนกันยายนที่ระดับ 148,000 ตำแหน่ง ประกอบกับการจ้างงานในภาคเอกชนที่มีการประกาศไปก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้น 184,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม จาก 128,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน และกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ยังได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานที่ผ่านมาในเดือนสิงหาคม และกันยายน โดยปรับเพิ่มขึ้นอีก 84,000 ตำแหน่งจากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ โดยตัวเลขดังกล่าวถือเป็นข่าวดีหนุนสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งที่ฉุดราคาทองคำร่วงลง
ประกอบกับปัจจัยลบจากฝั่งยุโรปที่เพิ่มแรงกดดันให้สกุลเงินยูโร และราคาทองคำอ่อนตัวลง โดยกระทรวงแรงงานสเปนรายงานว่า จำนวนผู้ว่างงานในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 128,242 คน จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งส่งผลให้ชาวสเปนที่ตกงานประมาณ 4.8 ล้านคน ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจ และตลาดแรงงานที่ย่ำแย่ของสเปน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นได้จากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสเปนในเดือนตุลาคมลดลง แตะ 43.5 โดยดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสเปนหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ยังคงสร้างแรงกดดันในตลาดทองคำ เบื้องต้น วายแอลจีแนะนำให้รอจังหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้รอขายทำกำไรตามบริเวณแนวต้านต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,664 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,684 หรือ 1,692 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
