เอเชีย กรีนฯ ยิ้มรับความสำเร็จโครงการลดต้นทุน จ.อยุธยา เพิ่มความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น รับไตรมาส 3/2555 นี้รับอานิสงส์เต็มๆ ดันผลงานครึ่งปีหลังฟื้นตัวอย่างชัดเจน เหตุโครงการท่าเรือ และคลังสินค้า ช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยปีละกว่า 100 ล้านบาท ด้าน “พนม ควรสถาพร” ย้ำเดินหน้าแผนดำเนินธุรกิจ 5 ปี ดันรายได้แตะหมื่นล้านบาท
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยว่า โครงการลดต้นทุนที่ดำเนินการสร้างท่าเรือ และคลังสินค้าให้อยู่ในบริเวณเดียวกัน เพื่อลดขั้นตอนการนำเข้าให้สั้นลง เพิ่มความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นให้เพิ่มขึ้น ถือเป็นหนึ่งในแผนดำเนินธุรกิจ 5 ปี (2554-2558) ของบริษัทฯ ที่จะผลักดันเป้ารายได้ไปให้ถึง 10,000 ล้านบาท พร้อมกับการเพิ่มมาร์จิ้น
สำหรับการเริ่มดำเนินงานโครงการท่าเรือ และคลังสินค้าระบบปิดระยะที่ 1 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น จะรับรู้รายได้อย่างเต็มจำนวนในไตรมาส 3/2555 นี้เป็นต้นไป และหากการพัฒนาโครงการเสร็จสมบูรณ์ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส 1/2556 จะทำให้ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคงจะสะท้อนในผลประกอบการปี 2556 เป็นต้นไป
นายพนมกล่าวอีกว่า การที่จะพลิกฟื้นของผลประกอบการนั้น มาจากต้นทุนสินค้าคงคลังที่ต่ำลง และที่สำคัญค่าขนส่งที่ถูกลงซึ่งมากจากโครงการสร้างท่าเรือ และคลังสินค้าระบบปิดอยู่ในบริเวณเดียวกันที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อลดขั้นตอนการนำเข้าให้สั้นลงซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้ปีละกว่า 100 ล้านบาท
“โครงการท่าเรือ และคลังสินค้าที่อยุธยานั้น ถือเป็นคลังสินค้าแบบประหยัดพลังงาน และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI โดยยกเว้นภาษีเงินได้ 8 ปี โครงการดังกล่าวจะดำเนินการภายใต้บริษัท เอจีอี เทอร์มินอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นโดย AGE 100% โดยในเฟสแรกจะรับรู้รายได้อย่างเต็มจำนวนในไตรมาส 3 นี้ ส่วนเฟสที่ 2 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ประมาณ 60-70% ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกปีหน้า และคงเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 2 เป็นต้นไป” นายพนมกล่าว
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจ 5 ปี 4 โครงการของบริษัทนั้น ประกอบไปด้วย การส่งออกถ่านหินไปยังต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทก็ได้มีการส่งออกถ่านหินไปยังประเทศจีน และกำลังจะขยายตลาดไปยังประเทศอินเดีย รวมทั้งโครงการลดต้นทุนดำเนินโครงการก่อสร้างท่าเรือ และคลังสินค้าระบบปิดเพื่อลดขั้นตอนในการนำเข้าให้ลดลง และการลงทุนในธุรกิจต้นน้ำ คือ การเข้าลงทุนในเหมืองถ่านหิน เพื่อการรองรับการเติบโตของธุรกิจในอัตราที่สูง ทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่บริษัท และ 4.การลงทุนในธุรกิจปลายน้ำ โดยได้ศึกษาโครงการลงทุน “โรงไฟฟ้าถ่านหิน”