ASTVผู้จัดการรายวัน - “ณุศาศิริ” ขยายตลาดบุกเมืองท่องเที่ยว ผุดโครงการมิกซ์ยูส หวังเนรมิตเป็นโครงการที่อยู่อาศัยครบวงจร บ้านเดี่ยว คอนโดฯ สวนน้ำ สวนสนุก พลาซ่า มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ชูสวนน้ำ-พลาซ่า The Grand Kingdom จุดแข็งเสริมศักยภาพ สร้างความแตกต่างโครงการในพื้นที่ คาดเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 3/2558
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA กล่าวว่า กลุ่มณุศาศิริมีแผนจะซื้อที่ดิน300 ไร่ บริเวณถนนสุขุมวิท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งจะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม สวนน้ำ และพลาซ่า โดยจะแบ่งเนื้อที่กว่า 100 ไร่ทำโครงการสวนน้ำให้บริการนักท่องเที่ยว และพลาซ่า เพื่อปล่อยเช่าภายใต้ชื่อ The Grand Kingdom แก่ผู้ค้าปลีกเพื่อจำหน่ายสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการในโครงการ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายบัตรเพื่อใช้บริการสวนน้ำ อาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงรายได้ค่าเช่าพื้นที่ในส่วนพลาซ่า
“โครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้เตรียมความพร้อมในด้านเงินลงทุนเอาไว้เรียบร้อย และเตรียมที่จะเปิดโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในส่วนของบ้าน และคอนโดมิเนียมได้ในช่วงปลายปี 2555 นี้ ส่วนโครงการสวนน้ำ และพลาซ่า ภายใต้ชื่อ The Grand Kingdom คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณไตรมาส 3 ปี 2558”
สำหรับโครงการ The Grand Kingdom เป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ และผลกำไรให้แก่กลุ่ม NUSA ซึ่งจากข้อมูลประมาณการเบื้องต้นของฝ่ายจัดการที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ พบว่า เป็นโครงการที่มีผลตอบแทนในการลงทุนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่ในเขตพื้นที่พัทยาใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการแหล่งท่องเที่ยวเพื่อรองรับอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยว
นายวิษณุ กล่าวว่า โครงการ The Grand Kingdom จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ทางการตลาด และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในพื้นที่ เนื่องจากภาพรวมของโครงการจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีรูปแบบการให้บริการ และความบันเทิง รวมถึงความสะดวกสบายที่ครบวงจรมากกว่าคู่แข่งขัน และยังมีรูปแบบที่แปลกใหม่
ทั้งนี้ โครงการ The Grand Kingdom จะอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทย่อยของ NUSA ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ซึ่งภายหลังจากที่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเรียบร้อยแล้ว จะใช้เวลาในการออกแบบ และว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ความเหมาะสมของขนาดรายการ และการลงทุน คาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2556 และโครงการดังกล่าวจะสามารถเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ประมาณไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 เป็นต้นไป ทั้งนี้ จะจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจสวนน้ำ และพลาซ่าเป็นผู้บริหารงาน และบริษัทย่อยจะเป็นผู้บริหาร และเจ้าของโครงการ
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA กล่าวว่า กลุ่มณุศาศิริมีแผนจะซื้อที่ดิน300 ไร่ บริเวณถนนสุขุมวิท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งจะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม สวนน้ำ และพลาซ่า โดยจะแบ่งเนื้อที่กว่า 100 ไร่ทำโครงการสวนน้ำให้บริการนักท่องเที่ยว และพลาซ่า เพื่อปล่อยเช่าภายใต้ชื่อ The Grand Kingdom แก่ผู้ค้าปลีกเพื่อจำหน่ายสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการในโครงการ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายบัตรเพื่อใช้บริการสวนน้ำ อาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงรายได้ค่าเช่าพื้นที่ในส่วนพลาซ่า
“โครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้เตรียมความพร้อมในด้านเงินลงทุนเอาไว้เรียบร้อย และเตรียมที่จะเปิดโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในส่วนของบ้าน และคอนโดมิเนียมได้ในช่วงปลายปี 2555 นี้ ส่วนโครงการสวนน้ำ และพลาซ่า ภายใต้ชื่อ The Grand Kingdom คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณไตรมาส 3 ปี 2558”
สำหรับโครงการ The Grand Kingdom เป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ และผลกำไรให้แก่กลุ่ม NUSA ซึ่งจากข้อมูลประมาณการเบื้องต้นของฝ่ายจัดการที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ พบว่า เป็นโครงการที่มีผลตอบแทนในการลงทุนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่ในเขตพื้นที่พัทยาใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการแหล่งท่องเที่ยวเพื่อรองรับอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยว
นายวิษณุ กล่าวว่า โครงการ The Grand Kingdom จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ทางการตลาด และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในพื้นที่ เนื่องจากภาพรวมของโครงการจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีรูปแบบการให้บริการ และความบันเทิง รวมถึงความสะดวกสบายที่ครบวงจรมากกว่าคู่แข่งขัน และยังมีรูปแบบที่แปลกใหม่
ทั้งนี้ โครงการ The Grand Kingdom จะอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทย่อยของ NUSA ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ซึ่งภายหลังจากที่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเรียบร้อยแล้ว จะใช้เวลาในการออกแบบ และว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ความเหมาะสมของขนาดรายการ และการลงทุน คาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2556 และโครงการดังกล่าวจะสามารถเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ประมาณไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 เป็นต้นไป ทั้งนี้ จะจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจสวนน้ำ และพลาซ่าเป็นผู้บริหารงาน และบริษัทย่อยจะเป็นผู้บริหาร และเจ้าของโครงการ
