หาดทิพย์ เพิ่มทุน 33.20 ล้านหุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม อัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 7 บาท หวังนำเงินที่ได้ก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อรองรับสายการผลิตขวดพลาสติก PET และเป็นเงินทุนหมุนเวียน และลงทุนเพิ่มในเซาท์เทิร์น ร็อคส์
ร.ต.ไพโรจน์ รัตตกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/54 เมื่อวันที่ 8 ต.ค.55 อนุมัติการลดทุนจดทะเบียน จาก 250 ล้านบาท เป็น 166.01 ล้านบาท โดยตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้จำหน่าย จำนวน 83.985 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท
นอกจากนี้ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 166.01 ล้านบาท เป็น 199.218 ล้านบาท แบ่งเป็น 199.218 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 33.20 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมเป็นเงิน 33.203 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 7 บาท (กรณีมีเศษหุ้นให้ปัดทิ้ง) กรณีมีหุ้นเหลือจาการเสนอขาย คณะกรรมการบริษัท มีอำนาจจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่ประสงค์จะซื้อหุ้นเกินสิทธิตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมในราคาเดียวกับหุ้นที่ได้รับจัดสรร
โดยได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 14 ธ.ค.55 (Record date) ให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น วันที่ 17 ธ.ค.55 กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/55 วันที่ 4 ธ.ค.55 และกำหนดระยะเวลาการจองซื้อ และชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นในวันที่ 21-25 ม.ค.56
สำหรับเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน เพื่อนำไปใช้ลงทุนสำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อรองรับสายการผลิตขวดพลาสติก PET แห่งใหม่ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ และยังให้ลงทุนเพิ่มในบริษัท เซาท์เทิร์น ร็อคส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 99.99% จำนวน 37 ล้านบาท โดยขั้นต้นบริษัทจะจ่ายเงินลงทุน 25% ของเงินที่ลงทุนเพิ่ม เป็นเงิน 9.25 ล้านบาท
ร.ต.ไพโรจน์ รัตตกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/54 เมื่อวันที่ 8 ต.ค.55 อนุมัติการลดทุนจดทะเบียน จาก 250 ล้านบาท เป็น 166.01 ล้านบาท โดยตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้จำหน่าย จำนวน 83.985 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท
นอกจากนี้ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 166.01 ล้านบาท เป็น 199.218 ล้านบาท แบ่งเป็น 199.218 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 33.20 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมเป็นเงิน 33.203 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 7 บาท (กรณีมีเศษหุ้นให้ปัดทิ้ง) กรณีมีหุ้นเหลือจาการเสนอขาย คณะกรรมการบริษัท มีอำนาจจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่ประสงค์จะซื้อหุ้นเกินสิทธิตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมในราคาเดียวกับหุ้นที่ได้รับจัดสรร
โดยได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 14 ธ.ค.55 (Record date) ให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น วันที่ 17 ธ.ค.55 กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/55 วันที่ 4 ธ.ค.55 และกำหนดระยะเวลาการจองซื้อ และชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นในวันที่ 21-25 ม.ค.56
สำหรับเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน เพื่อนำไปใช้ลงทุนสำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อรองรับสายการผลิตขวดพลาสติก PET แห่งใหม่ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ และยังให้ลงทุนเพิ่มในบริษัท เซาท์เทิร์น ร็อคส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 99.99% จำนวน 37 ล้านบาท โดยขั้นต้นบริษัทจะจ่ายเงินลงทุน 25% ของเงินที่ลงทุนเพิ่ม เป็นเงิน 9.25 ล้านบาท