กรุงศรีเปิดมิติใหม่ “กรุงศรี ควิก เพย์” ให้รูดชำระเงินผ่านมือถือ-แท็บเล็ตได้ทุกทีตลอดเวลา ประเดิมจับมือเอไอเอให้รูดชำระค่าเบี้ย นำร่องให้ตัวแทน 250 เครื่อง พร้อมรุกตลาด Delivery ต่อ ปีหน้าคาดกระจายได้หมื่นเครื่อง หวังช่วยกระตุ้นยอดใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้าน
นายฟิลิป แทน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับบริษัท เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัวเทคโนโลยีชำระเงินรูปแบบใหม่ “กรุงศรี ควิก เพย์” ซึ่งเป็นระบบที่ให้ลูกค้าเอไอเอสามารถชำระเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิตในเครือธนาคารกรุงศรีฯ ผ่านตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอด้วยสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต
“เทคโนโลยีนี้จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตให้เป็นจุดชำระเงิน ทำให้เกิดความสะดวก และคล่องตัว ซึ่งเอไอเอ ประเทศไทยถือเป็นพันธมิตรรายแรกที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ โดยในช่วงแรกจะเริ่มใช้กับตัวแทนของเอไอเอก่อนประมาณ 250 เครื่อง และในปีหน้า ธนาคารมีแผนจะขยายให้บริการชำระเงินดังกล่าวแก่ธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจที่ใช้บริการจัดส่ง (Delivery) ลอจิสติกส์ ขายตรง โรงแรม และร้านอาหาร เป็นต้น ซึ่งในปีหน้าน่าจะมียอดการใช้เครื่องเพิ่มอีกหมื่นเครื่อง รวมถึงจะมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรรวมมูลค่าสูงประมาณ 207,000 ล้านบาทในปี 2558”
นายฐากร ปิยะพันธ์ กรรมการผู้จัดการ กรุงศรี คอนซูเมอร์ กล่าวเสริมว่า ในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรในเครือของกรุงศรี กรุ๊ปรวม 188,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรวมในส่วนของบัตรเครดิตธนาคารเอชเอสบีซีที่ซื้อมาด้วย และคาดว่าจะมีฐานบัตรเครดิตเพิ่มเป็น 4 ล้านใบ
“หากไม่รวมยอดใช้จ่ายของบัตรเอชเอสบีซี ปีนี้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรก็จะโตประมาณ 15-20% ซึ่งหากมีการใช้ระบบเทคโนโลยีใหม่ดังกล่าว ก็น่าเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรได้มากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าจะมีลูกค้าเอไอเอใช้ระบบการชำระเงินดังกล่าว 2.2-2.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่ร้านค้า และธุรกิจอื่นน่าจะมียอดใช้จ่ายผ่านระบบ กรุงศรี คิวเพย์ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทหากเริ่มใช้ในปีหน้า”
สำหรับความคืบหน้าในการรวมพอร์ตบัตรเคตดิตเอชเอสบีที่ซื้อมานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ และในเดือนมกราคมปีหน้าจะสามารถเปลี่ยนบัตรให้ลูกค้าเอชเอสบีซีมาเป็นบัตรเครดิตกรุงศรีฯ ได้หมด โดยพอร์ตสินเชื่อที่โอนมามีจำนวน 8 พันล้านบาท และมีจำนวนลูกค้า 5 แสนใบ
“เรื่องการซื้อพอร์ตสินเชื่อเข้ามาเพิ่มนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เหมาะสม ราคาที่เหมาะสม รวมถึงประเภทของลูกค้าที่เหมาะสม ซึ่งหากมีโอกาสเราก็พิจารณาอยู่ แต่ในช่วงนี้จะเน้นที่ความร่วมมือกับพันธมิตรไปก่อน”