xs
xsm
sm
md
lg

ผวาต่างชาติขนเงินเข้าเก็งกำไร “สินทรัพย์-อสังหาฯ” ธปท.ส่งทีมประกบ-สกัดฟองสบู่แตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธปท. จับตาผลกระทบ QE3 ทำเม็ดเงินนอกป่วน ศก.ไทย เตรียมส่งทีมสำรวจต่างชาติขนเงินเข้าเก็งกำไร “สินทรัพย์-อสังหาฯ” ภายในประเทศ ยันมีมาตรการเด็ดป้องปราม สกัดลุกลามสร้างปัญหาฟองสบู่โต

นางสุชาดา กิระกุล รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. มีการเกาะติดสถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้ายใกล้ชิด หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ซึ่งขณะนี้ ธปท. กำลังเร่งออกสำรวจการเก็งกำไรในสินทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ซึ่งเป็นห่วงว่าราคาอาจจะขยับตัวขึ้นจากแรงกดดันของภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้า ทั้งนี้ เพื่อป้องกันก่อนที่จะสร้างความเสียหายต่อเสถียรภาพของระบบ โดยหากพบ ธปท.พร้อมที่จะดำเนินนโยบายอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อทำการสกัดกั้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบการเก็งกำไรในสินทรัพย์ดังกล่าวเกิดขึ้น โดยเฉพาะการขายใบจองซื้อ แม้ว่าจะเห็นการเข้าซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวก็ตาม แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากภาวะอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินที่อยู่ในระดับต่ำ จึงเกิดการซื้อเพื่อลงทุน

ทั้งนี้ ธปท.พบว่าขนาดของ QE3 ที่มีมูลค่ากระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เล็กกว่า QE ก่อนหน้านี้ รวมถึงตลาดมีการรับรู้ และปรับตัวรองรับมาตรการไปก่อนหน้า ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียที่ขยายตัวไม่ได้ดีมาก ทำให้ผลกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนไหลเข้าไทยไม่รุนแรง โดยระยะ 7 วันหลังประกาศใช้ QE3 ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเพียง 0.5% เท่านั้น ก่อนที่จะกลับมาอ่อนค่าลงเล็กน้อยในวันที่ 20 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา

“เราพบว่าเงินทุนที่เข้าไทยส่วนใหญ่ ตอนนี้เข้าไปในตลาดพันบัตร (บอนด์) แต่ก็เป็นปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับมาเลเซียที่ไหลเข้าหลัก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เงินบาทแข็งค่าเป็นอันดับสุดท้ายของภูมิภาค และส่วนหนึ่งยังมีแรงซื้อดอลลาร์สหรัฐจากผู้นำเข้า ขณะที่ผู้ส่งออกก็ไม่มีการขาย Forward ล่วงหน้าเพราะส่งออกชะลอ รวมทั้งการออกไปซื้อสินทรัพย์ต่างประเทศของคนไทย”

สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2556 นางสุชาดา มองว่า ยังมีเรื่องของเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา โดยมุมมองของเฟดที่จะขยายระยะเวลาการใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับต่ำไปจนถึงปี 2558 แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอยยืดเยื้อยาวนาน และยังคงต้องลุ้นผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2555 นี้ เพราะมีผลต่อการตัดสินใจทำนโยบายการคลัง โดยเฉพาะการช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ว่างงงาน เพราะหากหายไปก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจลดลงถึง 3-4% ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปยังมีความเสี่ยงในการชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวส่งออกของไทย

นอกจากนั้น ยังพบว่าการขยายตัวของการบริโภค และการลงทุนในประเทศซึ่งเร่งตัวมากในปีนี้ จะเติบโตในอัตราชะลอลงในปี 2556 ดังนั้น ความหวังจึงอยู่ที่ภาครัฐจะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามที่ตั้งเป้าหมายได้หรือไม่ ตลอดถึงมีโครงการที่เหมาะสมเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ เช่น โครงการรถไฟฟ้า โครงการบริหารจัดการน้ำหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น