น้ำมันพุ่งหลังซีเรียกับตุรกีตึงเครียด หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำก็บวก

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันพุ่งแรงวานนี้ (4) หลังเหตุปะทะตามชายแดนซีเรียกับตุรกีก่อความกังวลต่ออุปทาน ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำก็ขยับขึ้นอย่างคึกคัก ขานรับผลดีเบตศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และอีซีบีเชื่อโครงการเข้าซื้อพันธบัตรจะเป็นประโยชน์ต่อสเปน

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 3.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 91.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 4.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

“การขยับขึ้นของราคาน้ำมันส่วนหนึ่งมาจากแรงขับเคลื่อนทางเทคนิค ขณะที่ความกังวลด้านอุปทานอันมีต้นตอจากความขัดแย้งที่ลุกลามระหว่างตุรกีกับซีเรียก็เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันเช่นกัน” ฟาวัด ราซักซาดา นักวิเคราะห์ทางพลังงานระบุ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (4) ขยับขึ้นพอประมาณ โดยนักวิเคราะห์บางส่วนยกเครดิตให้ชัยชนะในศึกดีเบตชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของมิตต์ รอมนีย์ เหนือโอบามา ในประเด็นด้านเศรษฐกิจ

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 80.75 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,575.36 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 14.23 จุด (0.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,149.46 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 10.42 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,460.41 จุด

นักวิเคราะห์มองว่า ส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ตลาดขยับขึ้นในแดนบวก เป็นผลจากมิตต์ รอมนีย์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีชัยเหนือบารัค โอบามา ตัวแทนจากเดโมแครตในศึกดีเบตชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในประเด็นทางเศรษฐกิจเมื่อค่ำวันพุธ (3) ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากเขาเป็นที่นิยมชมชอบในภาคธุรกิจและนักลงทุนมากกว่า

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ก็มองด้วยว่าอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนตลาดก็คือความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ QE3

ด้านราคาทองคำวานนี้ (4) ปิดสูงสุดในรอบ 9 เดือน หลังประธานธนาคารกลางยุโรปบ่งชี้ว่าโครงการเข้าซื้อพันธบัตรจะเป็นประโยชน์ต่อสเปน ชาติที่กำลังประสบปัญหาหนี้สิน โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 16.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,796.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์