ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้ารุกตลาดผู้ลงทุนจีน โดยร่วมกับเมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จัดงาน “Thailand Corporate Day” เป็นครั้งแรกในจีน ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ นำ 4 บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ร่วมเดินทางให้ข้อมูลตอกย้ำศักยภาพตลาดทุนไทย และความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ดึงความสนใจจากบริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทจัดการลงทุนจีนเข้าร่วมงานกว่า 40 สถาบัน ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกันมากกว่า 1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
ดร.วิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการ สายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งมั่นที่จะสานโอกาสการลงทุนให้แก่บริษัทจดทะเบียนไทย ด้วยการจัดโรดโชว์นำเสนอข้อมูลและความน่าสนใจของตลาดทุนไทย และบริษัทจดทะเบียนไทยที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ ซึ่งนอกจากการเดินทางไปยังกลุ่มประเทศที่เป็นศูนย์กลางการลงทุนหลักของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อังกฤษ สิงคโปร์ และฮ่องกงแล้ว ยังได้มุ่งที่จะเข้าไปพบผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ๆ ที่ยังไม่มีการลงทุนในประเทศไทย เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย และจีน
“ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สร้างความสัมพันธ์กับผู้ลงทุนสถาบันจีน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนจีนอย่างต่อเนื่อง และพบว่าผู้ลงทุนสถาบันจีนที่ได้รับอนุมัติให้ลงทุนในต่างประเทศ มีความสนใจลงทุนในตลาดทุนไทยเพิ่มขึ้น หลังเห็นโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มจากการลงทุน เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีนี้ ดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปรับลดลงกว่า 5.50% (ข้อมูลถึงวันที่ 17 ก.ย. 2555) ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์หลักในภูมิภาคเอเชีย โดยเพิ่มขึ้น 24.70% การจัดงาน Thailand Corporate Day ที่เซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทจดทะเบียนไทยจะได้นำเสนอข้อมูลโดยตรงแก่ผู้ลงทุนจีน ให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดทุนไทย และความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนไทยที่สามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แม้จะประสบกับภาวะวิกฤตทางการเงินโลก และมหาอุทกภัยในปีที่ผ่านมา
สำหรับบริษัทจดทะเบียน 4 บริษัท ใน 4 หมวดธุรกิจหลัก ที่ร่วมงาน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งนี้ เป็นบริษัทจดทะเบียนที่เป็นผู้นำในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของรัฐบาล ประกอบด้วย หมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร คือ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) หมวดธนาคาร ได้แก่ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และหมวดพลังงาน คือ บมจ.ปตท. (PTT) โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกันกว่า 1.79 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 16.90% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ก.ย.2555)
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำหน้าที่เชื่อมโยงโอกาสทางการเงินให้แก่ธุรกิจ ให้แก่ผู้ลงทุนทุกกลุ่ม โดยการให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนจีนครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการตอบสนองความต้องการลงทุนของผู้ลงทุนในต่างประเทศที่มีโอกาสจะลงทุนในไทย ขณะเดียวกัน ยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางด้านธุรกิจให้แก่บริษัทจดทะเบียนในการนำเสนอข้อมูลด้วย”