“กิตติรัตน์” โต้ข่าว รบ.ถังแตก เก็บรายได้วืดเป้า ยืนยันไม่ต้องรีบปรับโครงสร้างภาษี ภ.ง.ด. เพราะมีบางส่วนต้องแก้ไขให้ชัดเจน พร้อมยืนยันไม่เลื่อนพิจารณา “สามี-ภรรยา” แยกยื่นภาษี เร่งเสนอเข้าสภาฯ ก่อนสิ้นปีนี้ ให้ทันปียื่นภาษีปี 55
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวที่รัฐจะไม่ปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะเก็บรายได้รัฐพลาดเป้า โดยยืนยันว่า รายรับรัฐบาลยังเป็นไปตามเป้าหมาย และรัฐบาลมีแผนปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแน่นอน แต่ว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบควรจะทำทีละเรื่อง โดยขณะนี้กำลังดำเนินการปรับภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แข่งขันได้ โดยได้ลดจาก 30% ให้เหลือ 23% เรียบร้อยแล้ว และจะเหลือ 20% ในปีหน้า ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดายังมีข้อจำกัดในบางมาตราที่ต้องแก้ไขให้เรียบร้อยก่อน
“การพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจะมีการปรับบ้าง ซึ่งกำลังทบทวนว่าเราจะปรับอะไร แต่ไม่ได้บอกว่าจะเลื่อน และที่ดำเนินการปรับครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะรัฐบาลถังแตก เพราะปัจจุบันรายได้รัฐบาลยังเป็นไปตามเป้าหมาย”
ทั้งนี้ ประเด็นที่จะปรับปรุง เช่น กรณีแยกยื่นภาษีสามีและภรรยา ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิฉัยแล้ว ให้นำทั้งรายได้สามี และรายได้ภรรยามาหักลดหย่อนกับสรรพากร ซึ่งเรื่องนี้ต้องเสนอเข้าสภาฯ พิจารณาภายในปีปฏิทิน 2555 หรือเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้สามารถใช้ยื่นในปีภาษี 2555 หรือช่วงต้นปีหน้าได้ทันที
ปัจจุบัน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของไทยเป็นแบบขั้นบันได โดยอัตราสูงสุดอยู่ที่ 37% ในระดับนี้ เมื่อเทียบกับต่างประเทศ พบว่า มีบางประเทศที่อัตราสูงสุด ต่ำกว่า 30% แต่เมื่อเทียบกับบางประเทศ อัตราสูงสุดของเราก็ยังต่ำกว่า ดังนั้น คงต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน เพราะยังต้องปรับในรายละเอียดอยู่ และต้องยื่นแก้ไขกฎหมายประมวลรัษฎากรของกรมสรรพากร
อยู่แล้ว